ชมแบรนด์แฟชั่นแบบสุดสนุกที่ DOVER STREET MARKET
ใครบอกว่าร้านมัลติแบรนด์จะตายง่าย ๆ Dover Street Market นี่แหละหนึ่งร้านที่จะอยู่ยงคงกระพันวันก่อนอ่านสัมภาษณ์เก่าของ fashion curator ชาวเบลเยี่ยมท่านนึง เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว พี่คนนี้เค้าทำนายเอาไว้ว่า การมาถึงของรูปแบบการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ง่ายและสะดวกสำหรับผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ จะทำให้ร้านค้าจริง ๆ ต้องล้มหายตายจากกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้าน Multi-Label ทั้งหลายที่..ถ้าไม่แน่จริงหรือครีเอทีฟจริงอย่าง Colette ไม่มีทางอยู่รอดผ่านมา 4-5 ปีปรากฏว่าแม้แต่ Colette ก็ตัดสินใจปิดร้านในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้แล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่เหตุผลทางการเงินที่ว่าร้านจะเจ๊งจนต้องปิดแต่ปิดเพราะเจ้าของร้านไม่อยากทำต่อก็ตาม แต่คำทำนายของคุณพี่คนนี้ (จริง ๆ ก็บอกชื่อได้นะ พี่เค้าชื่อ Geert Bruloot ประวัติการทำงานในแวดวงแฟชั่นของพี่ถือว่า juicy มาก..แต่อันนี้ไม่ใช่ประเด็นที่จะพูดถึงวันนี้) ก็อาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
แต่คิดอีกทีนะ เราไม่อยากให้จริงหรอก เพราะเรายังมีความสุขมากเหลือเกินกับการไปเดินเล่นในร้านมัลติแบรนด์ที่ยังเหลืออยู่ในโลกนี้ ซึ่งเอาจริง ๆ ร้านพวกนี้ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะม้วนเสื่อเลิกกิจการเร็ว ๆ นี้สักหน่อยล่าสุดคือเราไปโตเกียวมา แล้วเราก็พบว่า ร้าน Dover Street Market Ginza เป็นร้านที่เดินโคตรรรรรสนุก เราใช้เวลาอยู่ในนั้นสองชั่วโมงเต็ม อยู่แบบไม่รู้ตัวเลยว่าใช้เวลานานขนาดนั้นกับที่นี่ที่เดียว คือไปถึงหน้าร้านตอนราว ๆ สิบเอ็ดโมง แต่ออกมาตอนบ่ายโมงกว่า ๆ ยกนาฬิกาดูเวลาแล้วก็แอบเงิบและเกรงใจคนที่ไปด้วยอย่างแรงว่า แม้จะรู้ว่าเค้าก็หนุกหนานไม่แพ้เรา 55
พนักงานในร้าน Dover Street Market Ginzaเล่าประวัติร้าน Dover Street Market คร่าว ๆ ว่า DSM จริง ๆ แล้วเจ้าของและผู้ก่อตั้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Rei Kawakubo ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Comme des Garçons และ Adrian Joffe สามีของเธอซึ่งก็เป็นผู้บริหารสูงสุดของกอมม์นั่นแหละ ร้านแรกที่เปิดในปี 2004 คือ Dover Street Market ในย่านเมย์แฟร์บนถนนโดเวอร์ชื่อเดียวกับร้าน โดยเปิดด้วยคอนเซ็ปต์ของการเป็นที่รวมงาน Comme des Garçons ด้วย (กี่ร้อยไลน์สินค้าก็แล้วแต่ 55) และให้เป็นมัลติแบรนด์ที่มีแบรนด์อื่น ๆ เข้ามากินพื้นที่อยู่ในร้านด้วย โดยที่ทางร้านจะเปิดโอกาสให้แบรนด์นั้น ๆ เข้ามาตกแต่งในสไตล์ของตัวเองทั้งหมด แปลว่าไม่ใช่แค่เอาแบรนด์ต่าง ๆ มาแปะไว้ในสถานที่ที่ตัวเองคุมคอนเซ็ปต์ แต่ว่าปล่อยให้แบรนด์นั้น ๆ รังสรรค์พื้นที่วางผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่มันจะสะท้อนเอกลักษณ์และคอนเซ็ปต์ของตัวเองไปด้วยเลยอย่างเต็มที่
มุมของ Comme des Garçonsจากร้านแรก แน่นอนว่าต้องประสบความสำเร็จล่ะ เพราะ DSM อื่น ๆ ก็ผุดขึ้นตามมาในเวลาไม่นาน จนปัจจุบัน Dover Street Market มีทั้งที่ญี่ปุ่น นิวยอร์ก สิงคโปร์ (เพิ่งเปิดหมาด ๆ เดือนที่แล้ว) และกำลังจะเปิดร้านใหม่ที่แอลเอในปีหน้าโปรดสังเกตว่าเราไม่ได้เรียก DSM อื่น ๆ ว่าสาขา เพราะเรารู้สึกว่าแต่ละที่มันมีเอกเทศและมีความใหญ่โตในแบบของมันเอง (แต่จริง ๆ เจ้าของเค้าก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรหรอกนะเพราะมันก็คือสาขาอยู่ดีนั่นแหละ 55) เรามีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวชม DSM อย่างละเอียดมาแล้วสามสาขาที่มีมาก่อนคือ ลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียว ซึ่งก็คือ Dover Street Market Ginza ที่เพิ่งไปมาสด ๆ ร้อน ๆ
ยิ่งได้ไปเดินที่นี่ก็ยิ่งรู้สึกสนุกเอามาก ๆ เพราะเราอาจจะเทียบได้ว่า Dover Street Market เป็นเหมือนห้าง ๆ นึงมากกว่าที่จะเป็นร้าน ทุกที่ในโลกของ DSM จะเป็นอาคารของมันเอง มีความสูง 6, 7 หรือ 8 ชั้นว่ากันไป ภายในบรรจุไว้ด้วยผลิตภัณฑ์แทบทุกไลน์ของ Comme des Garçons และมีแบรนด์อื่น ๆ ไล่ตั้งแต่ชื่อเสียงเรียงนามดังในระดับโลกอย่าง Gucci, Prada หรือว่า Céline ไปจนถึงแบรนด์ที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักทั่วไปในวงกว้าง แต่ในโลกแฟชั่นก็ถือว่าเป็นแบรนด์ใหญ่มากอย่าง Azzedine Alaïa, Rick Owens, Dries Van Noten, JW Anderson ไปจนถึงแบรนด์ที่กำลังเริ่มจะดัง หรือมีชื่อแบบเงียบ ๆ มานานแล้วอาทิ Gosha Rubchinskiy, Visvim, Nemeth และอีกมากมาย
ในส่วนของลูกค้านั้น ลองเสื้ออย่างไม่รู้เหนื่อยจริง ๆ สนุกอีกอย่างคือการได้เจอกับพนักงานในร้านที่มี passion กับสิ่งที่ทำอยู่และกับแบรนด์ที่ตัวเองรับผิดชอบ เราไปลองเสื้อกอมม์ น้องพนักงานก็ไม่ใช่แค่หยิบเสื้อหาไซส์มาให้แล้วจบ แต่ยังมาคุยให้ฟังว่า ว่าการใส่เสื้อผ้าทับเลเยอร์นี่มันย้อนเกล็ดประวัติศาสตร์การแต่งตัวของคนญี่ปุ่นนะ แถมมีการสไตลิ่งให้เราเพิ่มด้วยการลองหาชิ้นอื่น ๆ นอกเหนือจากชิ้นที่เราสนใจมาให้เราลองเลเยอร์เพิ่ม ซึ่งปรากฏว่าสนุกมาก แต่แน่นอนว่าคงซื้อทุกชิ้นไม่ได้เนื่องจากมันคือกอมม์ เดส์ การ์ซงส์ทุกชิ้นที่ราคาไม่ค่อยเบาเท่าไหร่
แม้แต่เก้าอี้ก็ถูกใจกล่าวโดยสรุป Dover Street Market เป็นสถานที่ที่เดินเพลินที่สุดของที่สุด โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการ experiment งานแฟชั่นที่มันเป็นมากกว่าเสื้อผ้า และเพราะทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เราไม่คิดว่า DSM จะตายจากไปไหนในเร็ววันแน่ ๆ ถ้าใครไปเที่ยวลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว หรือสิงคโปร์ (กำลังอยากไปเยี่ยมเยือน DSM Singapore มาก ๆ) และอยากสำรวจสินค้าแฟชั่นที่ได้รับการ curate มาอย่างดี ขอให้บันทึกชื่อ Dover Street Market เอาไว้ในใจ รับรองว่าไม่ผิดหวัง! เอ๊ะ..นี่อวยซะเหมือนรับเงินเค้ามาเขียน เราเปล่านะ 555 เขียนด้วยความชอบจริง ๆ
แต่คิดอีกทีนะ เราไม่อยากให้จริงหรอก เพราะเรายังมีความสุขมากเหลือเกินกับการไปเดินเล่นในร้านมัลติแบรนด์ที่ยังเหลืออยู่ในโลกนี้ ซึ่งเอาจริง ๆ ร้านพวกนี้ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะม้วนเสื่อเลิกกิจการเร็ว ๆ นี้สักหน่อยล่าสุดคือเราไปโตเกียวมา แล้วเราก็พบว่า ร้าน Dover Street Market Ginza เป็นร้านที่เดินโคตรรรรรสนุก เราใช้เวลาอยู่ในนั้นสองชั่วโมงเต็ม อยู่แบบไม่รู้ตัวเลยว่าใช้เวลานานขนาดนั้นกับที่นี่ที่เดียว คือไปถึงหน้าร้านตอนราว ๆ สิบเอ็ดโมง แต่ออกมาตอนบ่ายโมงกว่า ๆ ยกนาฬิกาดูเวลาแล้วก็แอบเงิบและเกรงใจคนที่ไปด้วยอย่างแรงว่า แม้จะรู้ว่าเค้าก็หนุกหนานไม่แพ้เรา 55 พนักงานในร้าน Dover Street Market Ginzaเล่าประวัติร้าน Dover Street Market คร่าว ๆ ว่า DSM จริง ๆ แล้วเจ้าของและผู้ก่อตั้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Rei Kawakubo ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Comme des Garçons และ Adrian Joffe สามีของเธอซึ่งก็เป็นผู้บริหารสูงสุดของกอมม์นั่นแหละ ร้านแรกที่เปิดในปี 2004 คือ Dover Street Market ในย่านเมย์แฟร์บนถนนโดเวอร์ชื่อเดียวกับร้าน โดยเปิดด้วยคอนเซ็ปต์ของการเป็นที่รวมงาน Comme des Garçons ด้วย (กี่ร้อยไลน์สินค้าก็แล้วแต่ 55) และให้เป็นมัลติแบรนด์ที่มีแบรนด์อื่น ๆ เข้ามากินพื้นที่อยู่ในร้านด้วย โดยที่ทางร้านจะเปิดโอกาสให้แบรนด์นั้น ๆ เข้ามาตกแต่งในสไตล์ของตัวเองทั้งหมด แปลว่าไม่ใช่แค่เอาแบรนด์ต่าง ๆ มาแปะไว้ในสถานที่ที่ตัวเองคุมคอนเซ็ปต์ แต่ว่าปล่อยให้แบรนด์นั้น ๆ รังสรรค์พื้นที่วางผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่มันจะสะท้อนเอกลักษณ์และคอนเซ็ปต์ของตัวเองไปด้วยเลยอย่างเต็มที่
มุมของ Comme des Garçonsจากร้านแรก แน่นอนว่าต้องประสบความสำเร็จล่ะ เพราะ DSM อื่น ๆ ก็ผุดขึ้นตามมาในเวลาไม่นาน จนปัจจุบัน Dover Street Market มีทั้งที่ญี่ปุ่น นิวยอร์ก สิงคโปร์ (เพิ่งเปิดหมาด ๆ เดือนที่แล้ว) และกำลังจะเปิดร้านใหม่ที่แอลเอในปีหน้าโปรดสังเกตว่าเราไม่ได้เรียก DSM อื่น ๆ ว่าสาขา เพราะเรารู้สึกว่าแต่ละที่มันมีเอกเทศและมีความใหญ่โตในแบบของมันเอง (แต่จริง ๆ เจ้าของเค้าก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรหรอกนะเพราะมันก็คือสาขาอยู่ดีนั่นแหละ 55) เรามีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวชม DSM อย่างละเอียดมาแล้วสามสาขาที่มีมาก่อนคือ ลอนดอน นิวยอร์ก และโตเกียว ซึ่งก็คือ Dover Street Market Ginza ที่เพิ่งไปมาสด ๆ ร้อน ๆยิ่งได้ไปเดินที่นี่ก็ยิ่งรู้สึกสนุกเอามาก ๆ เพราะเราอาจจะเทียบได้ว่า Dover Street Market เป็นเหมือนห้าง ๆ นึงมากกว่าที่จะเป็นร้าน ทุกที่ในโลกของ DSM จะเป็นอาคารของมันเอง มีความสูง 6, 7 หรือ 8 ชั้นว่ากันไป ภายในบรรจุไว้ด้วยผลิตภัณฑ์แทบทุกไลน์ของ Comme des Garçons และมีแบรนด์อื่น ๆ ไล่ตั้งแต่ชื่อเสียงเรียงนามดังในระดับโลกอย่าง Gucci, Prada หรือว่า Céline ไปจนถึงแบรนด์ที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักทั่วไปในวงกว้าง แต่ในโลกแฟชั่นก็ถือว่าเป็นแบรนด์ใหญ่มากอย่าง Azzedine Alaïa, Rick Owens, Dries Van Noten, JW Anderson ไปจนถึงแบรนด์ที่กำลังเริ่มจะดัง หรือมีชื่อแบบเงียบ ๆ มานานแล้วอาทิ Gosha Rubchinskiy, Visvim, Nemeth และอีกมากมาย
ในส่วนของลูกค้านั้น ลองเสื้ออย่างไม่รู้เหนื่อยจริง ๆ สนุกอีกอย่างคือการได้เจอกับพนักงานในร้านที่มี passion กับสิ่งที่ทำอยู่และกับแบรนด์ที่ตัวเองรับผิดชอบ เราไปลองเสื้อกอมม์ น้องพนักงานก็ไม่ใช่แค่หยิบเสื้อหาไซส์มาให้แล้วจบ แต่ยังมาคุยให้ฟังว่า ว่าการใส่เสื้อผ้าทับเลเยอร์นี่มันย้อนเกล็ดประวัติศาสตร์การแต่งตัวของคนญี่ปุ่นนะ แถมมีการสไตลิ่งให้เราเพิ่มด้วยการลองหาชิ้นอื่น ๆ นอกเหนือจากชิ้นที่เราสนใจมาให้เราลองเลเยอร์เพิ่ม ซึ่งปรากฏว่าสนุกมาก แต่แน่นอนว่าคงซื้อทุกชิ้นไม่ได้เนื่องจากมันคือกอมม์ เดส์ การ์ซงส์ทุกชิ้นที่ราคาไม่ค่อยเบาเท่าไหร่ แม้แต่เก้าอี้ก็ถูกใจกล่าวโดยสรุป Dover Street Market เป็นสถานที่ที่เดินเพลินที่สุดของที่สุด โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการ experiment งานแฟชั่นที่มันเป็นมากกว่าเสื้อผ้า และเพราะทุกอย่างที่กล่าวมานี้ เราไม่คิดว่า DSM จะตายจากไปไหนในเร็ววันแน่ ๆ ถ้าใครไปเที่ยวลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว หรือสิงคโปร์ (กำลังอยากไปเยี่ยมเยือน DSM Singapore มาก ๆ) และอยากสำรวจสินค้าแฟชั่นที่ได้รับการ curate มาอย่างดี ขอให้บันทึกชื่อ Dover Street Market เอาไว้ในใจ รับรองว่าไม่ผิดหวัง! เอ๊ะ..นี่อวยซะเหมือนรับเงินเค้ามาเขียน เราเปล่านะ 555 เขียนด้วยความชอบจริง ๆ 
