HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
สนทนาบรรเลง : คำให้การหลากสีสันจากบทเพลงไร้คำร้อง   เพียงธุลี
by เพียงธุลี
26 มิ.ย. 2568, 16:31
  117 views

อินโทรดักชั่น

ความเงียบงันยาวนานในช่วงแพร่ระบาดของ Covid19 ก่อให้เกิดความอึดอัดบางอย่าง และโน้ตตัวแรกก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อ กฤษณ์ นักกีตาร์แนวฟิงเกอริ่งสไตล์ นึกอยากออกไปจากความอึดอัดนั้น เขาชวนเพื่อนนักดนตรีที่รู้จักกันอีกสามคนเดินทางไปเล่นที่ร้านของเพื่อนในจังหวัดระยอง เมื่อมีสี่คนตอนนั้นจึงใช้ชื่อ Four Season ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงคลาสสิคของ Vivaldi 

เมื่อโน้ตตัวแรกดังขึ้น โน้ตตัวต่อไปจึงดังตามมา Four Seasons ดำเนินมาเรื่อยๆ นักดนตรีเยอะขึ้น ชื่อเปลี่ยนชื่อเป็น All season อาจจะมีความหมายเป็นนัยๆ ว่า ถึงทุกคนจะเล่นเพลงบรรเลง แต่ในนั้นมีสีสันของทุกฤดูกาลปะปนอยู่

กานต์ วงฮัม ผู้จัด แจมกับหนึ่ง เอกรัตน์

ปลายกุมภาพันธ์ ปี 2568 All Season เดินทางมาเติมสีสันให้กับร้าน รออยู่ตรงนี้ ของ กานต์ อดีตฟ้อนต์แมนวงฮัม ที่ตอนนี้ได้กลายเป็น Luthiere ผลิตกีตาร์แบรนด์ สติ ออกมาได้หลายปีแล้ว ศิลปินใน All Season หนนี้ประกอบด้วย

อาจารย์โฟร์-พงษ์พัฒน์ พงษ์ประดิษฐ์ อาจารย์ประจำคณะดุริยางคศาสตร์​ มหาวิทยาลัยศิลปากร

หนึ่ง-เอกรัตน์ เจริญสิงห์ มือกีตาร์ Backup ของ ธีร์ ไชยเดช 

ฆ้อง มงคล หนึ่งในสมาชิกโยคีเพลย์บอย ตอนนี้เป็นอาจารย์สอนดนตรี และยังคงเล่นแบคอัพให้โยคีเพลย์บอย

บุญชอบ ถนอมวงธนา อาจารย์สอนกีตาร์ฟิงเกอริ่งสไตล์ อยู่ที่โรงเรียนปราชญ์​มิวสิค, Guitarthai school 

เอก-กฤษณ์ บาลไทยสงค์ นักดนตรีอาชีพ มีอัลบั้มเดี่ยวทำกับค่าย GMM และค่ายใบชาซอง

หนึ่ง-เอกรัตน์ เจริญสิงห์ มือกีตาร์ Backup ของ ธีร์ ไชยเดช 

โชว์การบรรเลงกีตาร์ค่ำคืนที่ลมพัดแรงช่วงเปลี่ยนฤดูกาลนั้นเปี่ยมสีสันอันหลากหลาย อ.บุญชอบ เล่นคัฟเวอร์เพลงแจ๊ซบ้างเพลงออริจินัลบ้าง ฆ้อง มงคล เล่นเพลงออริจินัลของตัวเอง “ฮไลต์คือเพลง ‘เพื่อนใหม่’ ที่หลายคนคงรู้จักจากอัลบั้ม Love Trend ของโยคีเพลย์บอย อ.โฟร์ เล่นเพลงคลาสสิค และเพลงพื้นบ้านที่ผ่านการเรียบเรียงขึ้นใหม่ กฤษณ์ โชว์สไตล์ฟิงเกอริ่งสไตล์แบบเทคนิคจัดจ้าน บางช่วงมีการขึ้นมาแจมกันเหมือนการผสมสี ปิดโชว์ด้วยกานต์ ขึ้นมาเล่นเพลง รออยู่ตรงนี้ 

และเมื่อโชว์จบ ในระหว่างที่กังวานตัวโน้ตยังล่องลอยอยู่ในบรรยากาศ เราจึงเชิญนักดนตรีทั้งสี่มาร่วมสนทนา

ทำไมแต่ละคนถึงเลือกเล่นเพลงบรรเลง

กฤษณ์ อย่างคนอื่นผมไม่รู้แต่ผมชอบ 

ฆ้อง ผมไม่ได้เลือกที่จะเล่นบรรเลง ถ้าเลือกคือเลือกใช่มั้ย แต่ผมเล่นมาเลยตั้งแต่แรก (นิ่งคิดไปอึดใจนึง) ก็นับว่าเลือก ก็เลือกมาแล้วเนาะ

เอกรัตน์ ผมเลือกครับ ช่วงหัดเล่นกีตาร์ตอนมัธยมสองสาม หัดเล่นกีตาร์​ไฟฟ้าอยู่​แล้วแหละ จึ้งๆๆๆๆ ร็อคครับ ด้วยความที่เราขยันเราเก่ง เราไปเร็วกว่าคนอื่น คนอื่นไม่เล่น ด่ามันตีมันชกกับมัน มากคนมากความ ไม่เล่นแล้วกีตาร์ไฟฟ้า ตั้งแต่วันนั้นผมก็เล่นกีตาร์โปร่ง ผมรู้ตัวว่าร้องเพลงไม่ได้ ก็เลยหาเพลงบรรเลงมาเล่นจรรโลงใจมาเป็นทุกวันนี้

พงษ์พัฒน์ ผมเรียนมาสายตรงเลย กีตาร์คลาสสิคก็เลยยาวมา ก็มีไปเล่นกีตาร์ไฟฟ้าอะไรบ้าง แต่ก็... ตัดสินใจว่าจะเรียนดนตรีจริงจัง สมัยก่อนไม่มีทางเลือก เข้ามาเรียนบังคับเป็นคลาสสิคหมด ก็เลยกลับมาเล่นคลาสสิคอย่างจริงจัง หลังจากนั้นก็ได้เจอตัวเอง เจอเสน่ห์ เพลงบรรเลงมันเล่นคนเดียว มันก็ดีมันสนุกมันท้าทาย

เสน่ห์ในแง่ทั้งคนฟังและคนเล่นหรือเปล่าครับ

พงษ์พัฒน์ ตอนนั้นเป็นเสน่ห์กับตัวเรา แต่ถ้าในฐานะคนฟังที่กำลังจะเรียนรู้ต่อไป มันส่งผลตรงนี้ว่า สักวันหนึ่งเราอยากทำให้ได้เหมือนสิ่งที่เราฟัง ก็เลยมุ่งมั่นมาตรงนั้น

ฆ้อง มงคล หนึ่งในสมาชิกโยคีเพลย์บอย

ก็คือแต่ละคนก็คงชอบฟังเพลงบรรเลงกัน?

ฆ้อง ผมฟังเพลงบรรเลงตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ชอบฟังเพลงบรรเลง ไม่ชอบฟังเพลงร้อง คำร้องมันเป็นอีกเรื่องนึง เรื่องของวรรณกรรม ฟังก็ได้ยินเป็นโน้ต ไม่ได้ยินว่ามันร้องว่าอะไร เพราะงั้นถึงฟังเพลงฝรั่งเพลงจีนก็ได้ ฟังโอเปร่าก็ได้ เพราะเราแค่ฟังว่าเมโลดี้มันคืออะไร ฟังแล้วก็รับรู้ทางด้านเมโลดิกไลน์ของมัน

สาระของดนตรีจริงๆ ก็อยู่ที่ดนตรี ทำนอง มีเสียงประสานอะไร สนใจตรงนั้นมากกว่า

เอกรัตน์ ในบางแง่มุม มันบังคับสื่อจนเกินไป (ฆ้อง - เรื่องราวมันจำกัด) ถูกบังคับด้วยเนื้อหา แต่ดนตรีมันไม่ได้บังคับ มันแค่ซัพพอร์ต ถ้าเราเอาเนื้อออก ฟังดนตรีอาจจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ ในมโนภาพของเรา มันอิสระกว่า (ฆ้อง - ของใครแต่ละคน) ผมเคยยกตัวอย่างเรื่องนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามาก เพลงค้างคาวกินกล้วย พอนึกถึงภาพบรรยากาศไทยๆ ท้องนา ทุ่งมา มันสื่อออกมา

อ.บุญชอบแจมกับหนึ่งเอกรัตน์.

คนที่ไม่ได้เรียนดนตรีจะสามารถฟังเพลงบรรเลงได้ไหม

ฆ้อง ใครก็เข้าใจดนตรี ไม่เห็นต้องเรียนเลย

เมื่อกี้พูดบนเวทีว่า เพลงบรรเลงเหมือนเป็นลูกเมียน้อย

เอกรัตน์ ใช้คำว่าอาภัพดีกว่า (กฤษณ์ - เออๆ) ไม่เป็นที่นิยม ใช้คำนี้ดีกว่า ไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย

กฤษณ์ จริงๆ มันมีคนฟัง ผมเชื่อว่ามีคนชอบฟังเพลงบรรเลง แต่แค่ผมยังหาไม่เจอกลุ่มใหญ่ๆ ที่พร้อมมาฟังเรา บางทีมันเป็นที่การกระจายข่าวของเราด้วย เราไม่มีโอกาสจะได้เจอคนกลุ่มใหญ่สักที

กฤษ แจมกับอ.โฟร์

เพลงบรรเลงบางทีก็มีเล่นคัฟเวอร์ใช่ไหมครับ แล้วถ้าเล่นออริจินัลจะยิ่งเข้าถึงยากไหมครับ

ฆ้อง ไม่เกี่ยว โชว์แบบนี้ไม่เกี่ยวว่าจะต้อง Original หรือไม่ แบบนี้คือการมาเล่นกีตาร์ให้ดู อย่างผมนี่ Original นะ เพลงผมแต่ง แต่ว่างานผมเป็นงานสเกตช์หยาบมากๆ ในขณะที่อย่างของอาจารย์โฟร์ เขาเล่นเนี้ยบใช่ไหม มันมีสิ่งที่น่าสนใจไม่เหมือนกัน งานแร็กไทม์อย่างนี้ไม่น่าสนใจเหรอ

พงษ์พัฒน์ ผมก็พยายามเอาเพลงที่เป็นพื้นบ้าน เพลงที่คุ้นหูกันแล้วก็ไม่ใช่แค่เพลงไทย เพลงที่คนรู้จักๆ เอามาทำให้มันเป็นกีตาร์ ซึ่งมันได้กระแสตอบรับมาก็โอเค แต่ก็ไม่ถึงกับตู้มต้าม

เอกรัตน์ ถ้าเราเกริ่นก่อนว่า...แนวทางของเพลงนี้โทนที่ว่านี้ มันอธิบายได้เป็นฉากๆ เลยนะ ท่อนอินโทรมาจากรูปแบบนี้ (ฟังไม่ออก) มันจะอธิบายว่าเราเห็นอะไร เราคิดอะไร แล้วเราจะสามารถแนะนำแนวทางเบื้องต้นให้ผู้ฟังได้ เช่น Four Season ของ Vivaldi โห คำอธิบายมหาศาลเลยครับ ในแต่ละ autumn

เพลงบรรเลงที่อยู่ในอัลบั้มเพลงป๊อบ คือเพลงเพื่อนใหม่ของพี่ฆ้อง

ฆ้อง เมื่อก่อนอัลบั้มของพวก Progressive Rock อังกฤษ ก็ทำกันเนาะ (กฤษณ์ - วง rush) วง yes สมัยก่อนผมก็จะฟังอัลบั้มโปรเกรสซีฟพวกนี้ พอฟังไปสักพักเมื่อยหูก็จะมีเพลงบรรเลงเพราะๆ ขึ้นมา วงที่มีหัวหน้าวงเป็นมือกีตาร์ก็จะเป็นบรรเลงกีตาร์​ ถ้าวงไหนที่มีหัวหน้าวงเป็นมือเปียโนก็จะเป็นบรรเลงเปียโน ของโยคีเพลย์บอยก็ทำเหมือนกัน ผมก็บอกเนี่ยมึงเอาเพลงบรรเลงใส่ไปเลย ก็ไม่มีใครว่าอะไร ก็ไม่ใช่เพลงป๊อปหรอก ผมเรียกว่าเพลง Instrumental Pop ผมอุปโลกน์ขึ้นมาเอง

อ.บุญชอบแจมกับหนึ่งเอกรัตน์.

อย่างพี่ฆ้องหรืออาจารย์บุญชอบเล่นเพลงบรรเลงมานานแล้วตั้งแต่ปี 33 กลุ่มขยายบ้างมั้ยครับ

ฆ้อง ตั้งแต่แรก ผมไม่มีกลุ่ม ไม่มีใครเลยที่เล่นเหมือนเรา...ตอนนั้นผมเจอแก๊งพี่แตงก่อน ถึงได้รู้ว่า ‘โลกนี้มันมีคนเล่นเหมือนกูด้วย แล้วมันบ้ากว่ากูอีก มันเนิร์ดกว่า’ พอเจอกฤษณ์ กฤษณ์ก็พาผมไปออกงาน ก็ได้รู้จักคนอื่นๆ เหมือนที่อาจารย์เคยสอนไว้ คือให้เรามั่นคงในแนวของเรา แล้วสักวัน คนพวกนี้จะแสดงตัวเอง

กฤษณ์ โลกจะเหวี่ยงมาเจอเอง ใช่ ที่นั่งกันอยู่นี่เจอกันมากกว่าสิบปี พี่หนึ่งนี่ครึ่งชีวิตผม เพราะพี่หนึ่งเป็นคนทำให้ผมเล่น Fingering Style

เอกรัตน์ แก๊งนั้นเป็นแก๊งที่ผลิตนักดนตรีเจ๋งๆ (กฤษณ์ - ครูบาอาจารย์)

มีความตั้งใจจะหากลุ่มคนฟังให้มากขึ้นไหมครับ

กฤษณ์ เอาผมคนเดียวก็แล้วกัน ผมแกะผมชอบเล่นผมอยากเล่น แล้วผมอาจจะเป็นสายสู้ ไม่รู้จัก Fingering Style ใช่ไหม ก็เล่นให้ดู ไม่รู้จักเพลงบรรเลงใช่ไหมเดี๋ยวไปเล่นให้ดู เชื่อว่ามีคนชอบอยู่แล้วครับ

บุญชอบ เชื่อๆๆ ว่าคนดูจะต้องรู้จัก แล้วเดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้น

พงษ์พัฒน์ ในมุมมองผมผมว่าคนที่เล่นแบบนี้ หรือเป็นกีตาร์บรรเลงแบบนี้ เมืองไทยไม่น้อยครับ คนเล่นเยอะมาก เก่งๆ ด้วย ถ้าเราเปรียบเทียบใน South East Asia นี่เราไม่น้อยหน้าใคร

ทีนี้ก็คือคนฟัง ถ้าเป็นต่างประเทศเขาจะให้คุณค่ากับตรงนี้ เขาจะมีกลุ่มคนฟังที่แม้ไม่ได้เป็นนักดนตรี แต่เขาสนับสนุนนักดนตรี ที่เราขาด ซึ่งมันเพราะอะไรก็ไม่รู้ คือบอกว่าไม่มีคนสนใจแต่มีคนเล่นเยอะมากเลย

ฆ้อง เราก็ต้องสร้างด้วยตัวเราเองแบบที่เราทำ (กฤษณ์​ ‘ใช่ๆ) ไม่มีใครฟังเราก็เล่น keep ทำสิ่งเหล่านี้ไปจน... นี่ไง! พี่เป็นเจอนัลไง อาศัยพี่นี่แหละ อาศัยคนแบบนี้ แล้วถ้างานเราไม่ได้แย่ใช่ไหม งานเราดีอยู่เสมอนะ เราก็จะพอหวังได้ว่ามีทางที่ดีเกิดขึ้น

กฤษ แจมกับหนึ่ง เอกรัตน์ ในเพลงซิลิโคน

เพราะรากฐานของบ้านเราไหมครับ

ฆ้อง มันเป็นองค์รวม มันหลายฝ่าย (หลายคนพูดว่าใช่) คือเราต้องปลูกฝัง คนฟังยังไม่เพียงพอ คือมันไม่ได้เกิดขึ้นกับ Fingering Style กีตาร์อย่างเดียวหรอก เกิดขึ้นกับ classical ด้วย (หลายคนบอก ใช่ๆ)

กฤษณ์ คือถ้าพูดกันแบบใหญ่ๆ เลยมันไปตั้งแต่วัฒนธรรมการศึกษา คัลเจอร์มันเป็นเรื่องใหญ่นะพี่ ใหญ่ไป แต่วิธีคิดของผม ผมว่าคนฟังไม่มีโอกาสเจอคนเล่น ผมก็เลยออกไปลุย มันก็ยังไม่ตู้ม แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ มันมีครับ อย่างรวมๆ กันมาเล่นแบบนี้ หรือแม้แต่ผมไปเล่นคนเดียว ไปเพราะใจก็อยากเล่นนะ ไปถึงไม่มีคนฟัง มีห้าคนสิบคน คือบางทีมีคนตั้งใจมาฟัง แต่เค้าไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร แต่เนี่ยมีคนนี้มาเล่นอีเว้นต์ ไปดูซิแล้วพอเล่นเป็นเพลงบรรเลง ผ่านไปซัก 3 เพลงก็ไม่สนใจแล้ว 

ผมเคยมาเล่นโฟล์คมิวสิคเฟสติวัลเล็กๆ ที่เชียงใหม่ แบบผู้จัดรู้จักกันก็เลยไป ภาพที่ถือกีตาร์ขึ้นไปเป็นภาพเดียวกัน แต่ว่าพอขึ้นไปเล่นแล้ว...เราประหลาดกว่าเขา (หัวเราะ) เขามาแบบมีเนื้อเพลงปิคกิงเพราะๆ พอเราไปตึ้มตั้มๆ มันไม่เหมือนเค้า...ก็เล่นไปสักงานสองงานเราก็รู้ว่าเราไม่ได้อยู่ในแคทะกอรีนั้น เวลามีใครชวนก็จะถามให้ดีว่ายังไงแน่ กลัวสะเหร่อน่ะ (หัวเราะ) คนไม่ฟัง เล่นโทรศัพท์งี้ เขินเหมือนกันนะ

เอกรัตน์ เล่นโทรศัพท์ไม่ว่า...ร้องยังอะ? (หัวเราะกันทั้งวง)

ฆ้อง เมื่อไหร่จะร้อง เออ...เมื่อไหร่จะเล่นเป็นเพลงอ่ะพี่

พงษ์พัฒน์ อย่างสายเหล็กยังโอเค กีตาร์คลาสสิคนี่ถือไป ยังไม่ทันจะเล่นเลย มองแล้วอ่ะ เฮ้ยมึงมาทำไม

เอกรัตน์ คือ...ที่เหมาะที่ควรที่ใช่จะดีกว่า บางทีอย่าหาว่าพวกเราเลือกมาก ไม่ออกสื่อบ่อยๆ คือจะให้ไปนั่งเล่นลานเบียร์พวกเราคงไม่ทำ ถูกไหมครับ

อย่างหลายๆ ครั้ง ไม่ได้อะไรเลยแต่คือเราอยากเล่น เราอยากแบ่งปันความสุขน้อยๆ ของเราตรงนี้ให้คนอื่นได้รั​บรู้บ้าง

เราจะหวังถึงเทศกาลดนตรีบรรเลงได้ไหมครับ

หลายคนตอบพร้อมกัน - ผมว่ามีได้ครับ, ต้องมีนายทุนปึ้ง จัด 

ฆ้อง ดนตรีบรรเลงมันกว้างนะ แจ๊ซอีกกระบินึง มีพวก Classical มีดนตรีพื้นบ้าน พื้นบ้านน่ะเยอะ

กฤษณ์ มันน่าจะทำได้รอบเดียว แล้วเจ๊ง (หัวเราะกันทุกคน) แต่ก็ไม่แน่ๆ คำว่าดนตรีบรรเลงมันไม่ใช่แค่พวกเราไง มีคลาสสิคัล มี Blues มี Orchestra มีดนตรีทดลอง

อยากให้แต่ละคนพูดถึงกีตาร์ที่ตัวเองใช้สักหน่อยครับ คือเราเล่นกีตาร์แนวนี้เราต้องการกีตาร์ที่พิเศษกว่าที่ใช้เล่นแบบทั่วๆ ไปไหม

กฤษณ์ ผมก็แค่อยากได้กีตาร์ที่... (ฆ้อง - play ability) เออ Play ability คนเล่นจะมีปัญหามากครับถ้า play ability มันไม่เข้ากับเค้า คอ เชพคอ มือผมมือพี่ฆ้องอาจถนัดคอไม่เหมือนกัน ความถนัดส่วนบุคคลครับ ส่วนเรื่องเสียงดีไม่ดีอยู่ที่เราชอบ แต่สำคัญคือต้องตอบสนองการเล่นของเรา แล้วก็ไม่เพี้ยน

บุญชอบ ผมใช้ Seagull ทรง palour คือผมมีซีกัลเป็นเดรดน็อธ (ชื่อของทรงกีตาร์ขนาดลำตัวใหญ่-ผู้เขียน) อันนี้เป็นตัวล่าสุดที่ใช้ ตัวมันเล็กเดินทางสะดวก มันเบากะทัดรัด บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบเสียง segull มันอาจจะกระด้างไปนิดนึง แต่จริงๆ มันตอบสนองดีนะครับ

อ.โฟร์ พงษ์พัฒน์กับการบรรเลงกีตาร์คลาสสิค

ตัวนี้ของอาจารย์โฟร์ใช่ไหมครับ ตัวนี้สั่งทำด้วยหรือเปล่าครับ

พงษ์พัฒน์ ใช่ครับ ของเยอรมัน ช่างชื่อ คาล ฮารอมิค ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ตัวนี้ทำปี 1997 ตัวนี้สมัยผมใช้เรียนปริญญาตรีเลย เป็นกีตาร์ตัวแรกๆ ของผมเลยครับ 

ตอนใหม่ๆ เสียงมันพุ่งกว่านี้ ตอนนี้พอเก่า วอลลุ่มมันลดลง แต่สิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมคือความสมดุล​มันดีมากเลย มาเล่นกลางแจ้งผมต้องใช้ปิคอัพ (ชี้ตรงใต้แซดเดิล) ปิคอัพตัวนี้ไปใช้กับกีตาร์ตัวที่ผมใช้ในคอนเสิร์ต ใช้ Acoustic ของห้องจริงๆ แล้วมันไม่ดีเลย ปรับบาลานซ์​อะไรยากเลย แต่มันเหมาะกับกีตาร์ตัวนี้มากๆ ทำทุกอย่างง่ายไปหมด ก็เลยเลือกตัวนี้มาวันนี้

ทำไมต้องสั่งทำครับอาจารย์

พงษ์พัฒน์ ความพิเศษของกีตาร์แฮนด์เมดอย่างนึงคือ มันมีการรับประกันที่เราไว้ใจได้ ถ้ามีปัญหาจากช่างที่ทำมา เขาจัดการให้ฟรี คือเราก็ซื้อการรับประกันตรงนี้ส่วนหนึ่ง อีกอย่างเนี่ย วิธีการทำกีตาร์มีความละเอียดมาก กลั่นกรองโดยคนคนเดียว อาจจะมีผู้ช่วยบ้างนิดหน่อย แล้วเราก็สามารถบอกรายละเอียดที่เราต้องการ เราอยากได้คอเป็นไงแบนกว้างเท่าไหร่ๆ

แสดงว่าการสั่งทำกีตาร์นี้เราต้องมีความรู้ชัดเจน

พงษ์พัฒน์ ถ้ามีส่วนหนึ่งก็จะดีมาก เลือกสเปคได้ด้วย กับคาแรคเตอร์เสียงที่เราต้องการ อย่างตัวนี้ผมก็เลือกเป็นไม้สปรูซกับบราซิลเลียนโรสวูด

ฆ้อง กีตาร์ผมใช้ของกานต์ (ยี่ห้อ สติ - ผู้เขียน) ไม่ได้สั่งทำ เห็นกานต์ทำสเปคที่ผมชอบ คือไม้ซีดาร์กับมะฮอกกานี ผมก็เลยทักไป เขาเบื่อๆ ก็เลยนั่งรถไฟมาหาผมที่บ้าน ผมเล่นๆ ก็เลยจ่ายตังค์ให้เขาไปเลย (หัวเราะ) ไม่รู้ยังไงเหมือนกัน (มีเสียงแซวจาก อ.บุญชอบว่าใจง่าย) 

กีตาร์ของกานต์เขาก็ Play ability ครับเล่นง่าย เรื่องเสียงจะไปเอาอะไรกับมันไม่ได้หรอกกีตาร์ใหม่ คือ เวลาผมซื้อกีตาร์ผมจะไม่ไปเลือกว่าเอาเสียงแบบนั้นแบบนี้ ผมจะเลือกแค่ว่าเล่นแล้วสบาย เสียงแค่อยู่ในแนวทางที่เราชอบก็พอ ตัวอื่นของผมมี Furch แล้วมี lowden ทุกตัวเป็นไม้ cedar หมดเลย

พงษ์พัฒน์ ส่วนหนึ่งคือผมว่ากานต์เขาเล่นกีตาร์ด้วยล่ะ เขาเลยรู้ความต้องการของนักเล่น

เอกรัตน์ หลักๆ ผมใช้ Santacruz เล่น Fingering style วันนี้มันเอามาไม่ได้ ก็เลยใช้ Cole Clark เค้าบอกว่า Cole Clark เล่นฟิงเกอริ่งสไตล์ดี แต่ผมใช้ Cole Clark ตอนเล่นแบคอัพมากกว่า เล่นเมิร์จในแบนด์ 3 ชิ้น มันดีมาก แต่เอามาเดี่ยวไม่ถนัด ทั้งที่ Cole Clark คอนิดเดียวเองเล่นง่ายมากครับ ตะครุบทุกโน๊ตได้ง่ายมากเลยครับ แต่ผมเดี่ยวซานตาครูซได้ถนัดมือกว่า เป็นสปรูซโรสวูด ผมคุมโทนได้ดีกว่า Santacruz คอเป็น traditioinal มินิ v นิดๆ เล่นยากกว่าด้วย แต่ผมกลับเล่นได้ถนัดกว่า ในการส่งโน้ตไดนามิคทั้งหลายแหล่จะดีกว่าตัวนี้เกือบเท่าตัว

แสดงว่าเรื่องแบบนี้แต่ละคนก็จะมีสเปคของตัวเอง

บุญชอบ แล้วแต่ชอบ

ฆ้อง มันขึ้นกับสไตล์การดีดเราด้วย ซีดาร์มันจะวอร์มกว่า สำหรับผม spruce คอนโทรลยาก มีย่านแหลมที่สว่างไป แหลมเปี๊ยวเกินไปสำหรับผม...ผมชอบเล่นทางด้านเสียงแหลมแรงๆ สปรูซมันจะไปเลยป้าย

พงษ์พัฒน์ ผมจะชอบสปรูซมากกว่า ผมเล่นซีดาร์แล้วมันทึบเกินไป คือผมเป็นคนเล่นเสียงมันไปทางอู้ๆ อยู่​แล้ว อยากได้อะไรที่มาบาลานซ์

สไตล์คนด้วย สไตล์การเล่นของเราด้วย?

ฆ้อง กีตาร์ตัวนี้เอาให้ทุกคนเล่นก็ไม่เหมือนกัน

บุญชอบ สรุปสุดท้ายแล้ว ถามตัวเองให้ได้ก่อนว่าตัวเองชอบคอแบบไหน ถนัดคอแบบไหน มือใครมือมัน ก็ไปหาว่าเราชอบแบบไหนเท่านั้นแหละ

สมาชิก All Season

ออลซีซั่นไปทั่วประเทศหรือยังครับ แต่ละที่เป็นยังไงครับ

ฆ้อง อุดร มหาสารคาม​ กระบี่ก็ไปมาแล้ว กระบี่นี้ดีมากเลย นักดนตรีหยุดหมดทั้งเมืองมาดูเรา (อ.บุญชอบหัวเราะ) แล้วมันก็ถือโอกาสปาร์ตี้กัน คือเราเป็นตัวจุดชนวนให้มันปาร์ตี้กัน​ โคตรมันเลย

ออลซีซั่นมีโปรเจกต์อะไรหลังจากนี้

กฤษณ์ มีแผนจะทำรวมอัลบั้มกัน ผมอยากให้มันมีแมททีเรียล เพราะว่าเวลาไปโชว์พอจบโชว์มันจะมีคนที่ชื่นชอบ... (ฆ้อง - อยากซื้อ CD) ใช่ คือปัจจุบันเนี่ย Audio material เนี่ยมันไม่มีเครื่องเล่นแล้วแต่เราซื้อในลักษณะของ merchandise (ของที่ระลึก - ผู้เขียน) เป็นการซัพพอร์ต​...

ฆ้อง หรือทำตุ๊กตาของพวกเรา (หัวเราะกันทั้งวง)

กฤษณ์ ก็อาจจะทำ Streaming Online ด้วย ก็ค่อยๆ ขยับขยายกันไป แต่อยากให้มีเพราะเรามีผลงานเป็นที่ประจักษ์จะไปต่อรองได้

หรือรุ่นน้องๆ ที่เล่นเพลงบรรเลงก็เยอะ ถ้าเราทำแล้วน้องๆ เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีเค้าเลียนแบบเขาทำต่อ เหมือนเราเปิดหนทางให้เขาสร้างผลงานไปด้วยกัน 

อ.บุญชอบ

จะว่าไปก็ไม่ค่อยมีใช่ไหมครับ Record ที่เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์

กฤษณ์ มันก็มีครับ แต่ว่า... (ฆ้อง - เฟิร์นก็ทำ) ผมก็ทำ อย่างขนาดตอนแกรมมี่ทำ Living Green Pertty Guitar ยังเจ๊งเลยครับ (หัวเราะกันหมด)

บุญชอบ ผมไม่เคยขายเป็นแผ่นเลย ก็เขียนไว้นานแล้วแต่ไม่เคยทำ อย่างเพลงสบายๆ ผมเคยเอาไปทำเป็นเพลงไตเติลของ CD How To Play อัลบั้มที่ 2 แต่มันก็ไม่เต็มเพลง 

ฆ้อง จริงๆ ผมควรจะทำ คนรอบตัวบอกให้ทำเยอะมาก เราก็ควรจะทำ แต่ว่ายังเล่นผิดอยู่ไง ยังอัดไม่ผ่านพูดง่ายๆ ผ่านก็จบแค่นั้น

มีกำหนดออกไหมครับ

กฤษณ์ หันไปถามทุกคน เอาเมื่อไหร่ดีครับ จริงๆ กำหนดไว้ว่าเดือน 6 ต้องส่งมาสเตอร์ คิดๆ ไว้แต่ก็ต้องดูหน้างานว่าแต่ละคนจะยืดหยุ่นกันยังไง เพราะว่าแต่ละคนก็มีภาระกันหมด

.บุญชอบ เปลี่ยนเรื่องๆ 

การสนทนาในคืนนั้นจึงจบลง หากเสียงกีตาร์คัสตอมเมดของอาจารย์โฟร์ยังคงเจื้อยแจ้วจากมือของฆ้อง แว่วเสียงคนฮัมเพลง รักคุณ​เท่าฟ้า คลอไปกับเสียงหัวเราะเบาๆ 

เราเพียงได้แต่หวังว่า ทั้งหมดของกลุ่มถ้อยคำที่เราได้รับฟังมาและเรียบเรียงส่งต่อกับท่านผู้อ่าน อาจจะเป็นการเกริ่นนำ ทำความรู้จัก เพื่อเชื้อเชิญทุกผู้สนใจ เปิดประตูเข้าสู่โลกกว้างใหญ่อันเปี่ยมจินตนการของเสียงดนตรี...ที่ไม่มีถ้อยคำ

ปิดม่าน

จากการสนทนาในคืนนั้น สิ่งที่ปรากฏชัดเจนคือ เพลงบรรเลงไม่ใช่เพียงแค่ดนตรีที่ขาดเนื้อร้อง แต่เป็นภาษาแห่งอารมณ์ที่สื่อสารได้โดยไม่ต้องอาศัยคำพูด เป็นศิลปะที่ให้อิสระทั้งแก่ผู้เล่นและผู้ฟังในการตีความหมาย สร้างจินตภาพ และรับรู้ความงามในแบบของตัวเอง

ศิลปิน All Season ทั้งสี่คนแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของเส้นทางที่นำมาสู่เพลงบรรเลง - ไม่ว่าจะเป็นการหลบหนีจากความซับซ้อนของคำร้อง การค้นหาเสน่ห์ของการเล่นเดี่ยว หรือการเดินทางผ่านการศึกษาดนตรีอย่างเป็นระบบ สิ่งที่เหมือนกันคือความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่รัก แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการหาผู้ฟัง

การสนทนาครั้งนี้เป็นเสมือนการเปิดม่านให้เห็นโลกของดนตรีบรรเลงไทยที่เต็มไปด้วยศิลปินที่มีฝีมือ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความหวังที่จะเผยแพร่ความงามของดนตรีให้คนไทยได้รับรู้มากขึ้น ทั้งผ่านการแสดงสด การสร้างผลงาน และการปลูกฝังวัฒนธรรมการฟังดนตรีที่หลากหลาย

บทสนทนานี้จึงไม่เพียงแค่เป็นการบันทึกมุมมองของนักดนตรี แต่เป็นเสียงเรียกร้องเบาๆ ให้สังคมไทยเปิดใจรับฟังเสียงดนตรีที่ไม่มีคำร้อง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวที่รอการค้นพบจากใจของผู้ฟังแต่ละคน

 

ABOUT THE AUTHOR
เพียงธุลี

เพียงธุลี

คนทำหนังอิสระที่ผันตนมาขายเสื้อผ้า เอาเวลาว่างมาจากการตัดเย็บเขียนหนังสือ​ เล่นดนตรี ทำช่อง youtube และยังคงทำวิดีโอสั้นๆ เหมือนเป็นบันทึกชีวิตตามแต่โอกาสจะอำนวย

ALL POSTS