ตำนานดริฟต์ชาวญี่ปุ่นเซอร์ไพรส์กับ Car Culture ไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
Drift King เคอิขิ สึชิยะ ตอบรับคำเชิญร่วมงาน Impact Speed Fest ทั้งดริฟต์โชว์และแจกลายเซ็นให้แฟนๆ อย่างเต็มอิ่ม 2 วันติด
สำหรับคนที่เติบโตมากับกีฬาแข่งรถของญี่ปุ่น จากแรงบันดาลใจการ์ตูนแข่งรถ Initial D ไปจนถึงภาพยนตร์ Fast & Furious การได้พบตำนานวงการแข่งรถตัวจริงอย่าง เคอิขิ สึชิยะ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น

“ผมน่ะ…รักรถไปจนวันตายเลยครับ” เคอิชิ บอกกับ HappeningBkk เมื่อถูกถามว่าจะมีอะไรที่ทำให้เขาเดินออกจากวงการดริฟต์หรือไม่
“...ผมรักดริฟต์ รักการแข่ง ผมไม่คิดว่าจะออกจากวงการมอเตอร์สปอร์ตแน่นอน ผมอยากถ่ายทอดความสนุกของรถให้คนทั่วโลก”
![]()
เคอิชิโชว์ลีลาดริฟต์ใน Hachiroku เคอิชิในวัย 69 ปี ยังคงเดินทางทั่วโลก ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับดริฟต์ เขาเป็นไอคอนของวงการรถแข่งญี่ปุ่น และ JDM (Japan Domestic Market) แม้แต่การที่เขาดริฟต์ด้วยรถ Toyota AE86 Trueno หรือมีชื่อเล่นว่า Hachiroku ในการแข่งรถตั้งแต่ 40 ปีที่แล้ว ก็ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนของวัฒนธรรมป๊อบจากญี่ปุ่น
เคอิชิมาร่วมงาน Impact Speed Fest ที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ เขาสารภาพว่าไม่คิดว่าจะเป็นงานใหญ่ขนาดนี้ เขาได้เห็นรถหลากหลายแนว งานยังจัดจนถึงค่ำ “สนุกมากเลยครับ สุดยอดจริงๆ”

เคอิชิได้เห็นการเติบโตของกลุ่มคนรักรถในไทย ตั้งแต่สมัยที่เขายังแข่งรถและได้มางานที่สนามแข่งบุรีรัมย์ จนถึงงานครั้งนี้ที่เขารู้สึกว่ามีแฟนๆ กีฬาแข่งรถมากขึ้นเป็นร้อยเท่า
Impact Speed Fest ครั้งแรก นอกจากจะมีนักแข่งดริฟต์ระดับตำนานมางานแล้ว ยังมียูทูปเบอร์ชื่อดังอย่าง แลรี่ เชน (Larry Chen) และดีโน่ (Dino DC) มาขึ้นเวทีอีกด้วย เป็นความพยายามของอิมแพ็คที่จะชูวัฒนธรรมรถของไทยในระดับโลก

หนึ่งในชาวต่างชาติที่บินมาเที่ยวงานอย่างกระตือรือร้นคือ อเล็กซ์ โบนิลลา เขาตัดสินใจซื้อตั๋วบิน 18 ชั่วโมงมาจากคอสตาริกาเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะ
“I love it. Just like the way this is, I love it.” อเล็กซ์ตอบด้วยความกระตือรือร้นเมื่อถามว่างานเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือไม่
อเล็กซ์เป็นเจ้าของสนามรถแข่ง La Marina ในเมืองลิมง ห่างจากกรุงซานโฮเซ เมืองหลวงของคอสตาริกาไปทางตะวันออกประมาณ 160 กิโลเมตร และเพิ่งเริ่มทำเพจ Poster Racing เกี่ยวกับกีฬาแข่งรถด้วย
เขาบอกว่าได้ยินเรื่องงานนี้จากยูทูปเบอร์ที่เขาตามดูชื่อ Toy Racing JDM วัฒนธรรม JDM กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ชิ้นส่วนรถญี่ปุ่นเป็นของหายากที่คอสตาริกา เพราะการนำเข้าชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย การมาเห็นรถแต่งมากมายที่งานนี้เลยเป็นเรื่องตื่นตาตื่นใจมาก

ทางอิมแพ็คเองก็ดูจะพอใจกับภาพรวมของงาน พอล กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอิมแพ็ค เป็นที่รู้กันในหมู่คนรักกีฬารถแข่งว่าเขามีความชื่นชอบเรื่องกีฬารถแข่งเป็นการส่วนตัว นับจากวันที่มีความคิดว่าจะจัดงาน จนถึงวันที่งานเกิดขึ้น 6 เดือน พอลบอกกับเราว่า คิดว่าจะทำอย่างไรให้เป็นงานของ Car Culture ในไทยจริงๆ และมีสิ่งที่จะหาดูได้ที่นี่เท่านั้น


นั่นคือเหตุผลที่เราเห็นคนหลากหลายกลุ่มมาร่วมงาน ไม่ใช่แค่รถแข่ง แต่มีรถแท็กซี่และรถตุ๊กตุ๊กมาดริฟต์โชว์ มีคนมาตั้งแคมป์ริมทะเลสาบ มีกลุ่มคนรักเวสปาหลายร้อยคนมาร่วมงาน ยังไม่รวมถึงรถบรรทุกและรถสองแถวแต่งเครื่องเสียงแบบจัดเต็มและอีกมากมายหลากหลายที่โชว์อยู่ในงาน

“car culture ของไทยเป็นอะไรที่คนต่างประเทศไม่ค่อยได้เห็น การที่เรามีเวทีแบบนี้ให้ influencer สามารถกระจายข้อมูลออกไปก็เป็นเป้าหมายส่วนหนึ่งของเรา อย่างงานนี้ เรามีเอาแท็กซี่เอาตุ๊กตุ๊กมาดริฟต์โชว์ มันก็เป็นสิ่งที่ต่างประเทศไม่มีแน่ คือเราไม่ได้มองว่า งานนี้ต้องมีซูเปอร์คาร์มากี่คัน ต่างประเทศมีเยอะกว่าเรา แต่ดูสิ แท็กซี่ดริฟต์แบบนี้มีที่ไหน ...นี่แหละ car culture ที่ทําให้เรารู้สึกว่าเราต้องช่วยกันผลักดัน ผมไม่ใช่ยูทูบเบอร์ ผมไม่ใช่ content creator เราเป็น exhibition organizer เราก็เลยบอกว่าหน้าที่ของเราโอกาสที่เราสามารถช่วยผลักดันตรงนี้ก็คือเป็นการจัดงาน” พอลเล่าถึงการจัดงานครั้งนี้
เขามองว่าภาพรวมการจัดงานเป็นที่น่าพอใจ และปีหน้าจะมีครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น พอลกระซิบว่าอิมแพคจะจัดงานรถอีกงานก่อนสิ้นปีมาให้สนุกกันอีกครั้ง
#CarCulture #Driftking #ImpactSpeedFest