ถอดรหัส อัตลักษณ์ไทยมิติใหม่ My Pride Thailand ผ่านคาแรกเตอร์ที่อยากให้คนรักและผูกพัน
ถ้าพูดถึงความสำเร็จของการสร้างอัตลักษณ์เมือง หรือประเทศ ผ่านแคมเปญสื่อสารแบรนด์ และคาแรกเตอร์ ก็ต้องยกนิ้วให้ญี่ปุ่น ที่ครองใจทั้งคนญี่ปุ่นและทั่วโลกไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ไทยได้ริเริ่ม My Pride Thailand ให้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์หลัก (Key communication campaign) พร้อมกับสร้างสรรค์คาแรกเตอร์สุดจี๊ด 50 แบบ เพื่อใช้เป็นอัตลักษณ์ร่วม ที่จะสร้างภาพจำทำให้คนหลงรักและภาคภูมิใจในความเป็นไทย
My Pride Thailand เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA (Creative Economy Agency) กับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ หรือ CISPI (Creative Industry and Soft Power Institute) ภายใต้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยหวังให้เป็นสารตั้งต้นสำหรับการประยุกต์ใช้ในรูปแบบงานที่หลากหลาย และบริบทที่แตกต่าง
ขณะนี้ CEA และ CISPI กำลังชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ผลิตสินค้า ผู้ให้บริการ รวมไปถึงผู้ประกอบการสร้างสรรค์ และนักออกแบบ มาใช้ทั้งโลโก้และคาแรกเตอร์ My Pride ที่สะท้อนความหลากหลายทุกมิติและความเป็นไทย หลังจากเปิดตัวไปแล้วในงานฉลอง Pride Month ผ่านแคมเปญ "Paint the City with MY PRIDE"
แนวคิดการออกแบบ
คุยกับ สยาม อัตตะริยะ Design Director บริษัท Pink Blue Black & Orange (PBBO) นักออกแบบกราฟิกชื่อดัง ที่เล่าเรื่องผ่านภาพ (Visual Storytelling) ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบคาแรกเตอร์สุดครีเอทีฟ 50 แบบ และกราฟิกดีไซน์ ที่สร้างอัตลักษณ์โดดเด่นให้กับงาน Bangkok Design Week 2025 เทศกาลงานออกแบบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สยาม เล่าว่า PBBO และกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า Artsaveworld ได้ร่วมกันสร้างสรรค์โลโก้และคาแรกเตอร์ชุดแรกทั้ง 50 แบบ ซึ่งเราจะเห็นความแซบและสนุกสนานมากๆ ผ่านตัวละครเหล่านี้
จากโจทย์ "We are all human" และ "We are all inclusive" เราต้องออกแบบต้องให้มีความหลากหลายของความเป็นไทย และมีความยืดหยุ่น เพื่อให้ทุกคนสามารถเอาไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ บรรจุภัณฑ์ หรือการตกแต่งสถานที่
"เราต้องมองให้มากกว่าความหลากหลายทางเพศ ผมมองว่า การสื่อสารซอฟท์พาวเวอร์ของไทย มันไม่ใช่ ช้าง วัด หรือ รถตุ๊กๆ แต่เป็นนามธรรม เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพียงแต่เราทำให้คนเห็นภาพออกมาเป็นรูปธรรม อย่างเช่น เทศกาลสงกรานต์ ที่ดึงดูดคนทั่วโลกมาร่วมงาน เพราะว่ามันสนุก รวมไปถึงสตรีทฟู้ด ที่มีเอกลักษณ์ของไทย"
นอกจากนี้ สยาม ยังให้นิยามของ My Pride คือ การรักตัวเอง เคารพตัวเอง ในแบบของเรา ไม่ต้องมาเถียงกันว่า แบบนี้เป็นไทยหรือไม่เป็นไทย แต่เรามาปรุงใหม่ให้มีความเป็นไทย
ใครนำ MY PRIDE ไปใช้ได้บ้าง
พิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการ CEA บอกว่า สิ่งหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ ก็คือ IP (Intellectual Property) ดังนั้น CEA จึงกำหนดหลักเกณฑ์ โดยให้ทุกคนนำอัตลักษณ์ร่วม My Pride ไปประยุกต์ใช้ได้ฟรี หากมูลค่าในเชิงพาณิชย์ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท จะเอาไปทำสินค้า แปะกล่อง ทำเป็นสติ๊กเกอร์ หรือตกแต่งร้านก็ได้
"วันนี้ คนอาจจะยังไม่ได้รักตัวละคร 50 ตัวนี้ แต่ขณะที่เรากำลังก้าวไป มันจะเริ่มมีการ์ตูนช่อง เริ่มมีจริต พฤติกรรมของตัวละครที่จะทำให้คนรัก เรากำลังเริ่มพัฒนาให้เห็นจริตของความเป็นไทย เช่น ความตลก เสียดสี เพื่อให้เห็นว่า ตัวละครพวกนี้สามารถเอาไปนำเสนอสินค้าของคุณ"
แคมเปญนี้ได้ผนึกกำลังพันธมิตรกว่า 10 แบรนด์ ที่ใช้คาแรกเตอร์ไทย ชุดอัตลักษณ์ “MY PRIDE” ไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ เช่น บัตร Rabbit, S&P, โชคชัยพิบูล , Kohkae, Moreloop, Yuedpao, Greyhound, ICHITAN, แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ, หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป และสยาม เอ็ม ซี จำกัด
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ก็เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการด้วยการนำ My Pride Thailand ไปสร้างสรรค์สื่อประชาสัมพันธ์บนคานรถไฟฟ้า บริเวณนานา ราชประสงค์ ชิดลม และอโศก โดยจะใช้เป็นตัวตั้งต้นผสานกับอัตลักษณ์ของ กทม. และย่านนั้นๆ ซึ่งเป็นจุดเช็กอินที่จะช่วยสร้างภาพจำได้เป็นอย่างดี