Thailand's Food Bank จะจัดการอาหารส่วนเกินแล้วส่งต่อถึงมือกลุ่มเปราะบางได้อย่างไร?
"ขยะอาหาร" เป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติเลยนะ แม้ว่าจะมีการรณรงค์จากหลายหน่วยงาน และสารพัดวิธีการจัดการแต่ก็ยังไม่ได้ผล เพราะปริมาณขยะอาหารกลับเพิ่มขึ้น โดย Food Waste Index 2024 ระบุว่า ประเทศไทย มีค่าเฉลี่ยขยะอาหารอยู่ที่ 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
การส่งต่ออาหารส่วนเกิน เป็นหนึ่งในมาตรการที่ไม่เพียงลดปริมาณขยะอาหารที่มากมายเกือบ 2,500 ล้านตันต่อปี หรือ 39% ของขยะมูลฝอยทั้งหมดในประเทศ หากยังจะช่วยแก้ปัญหาความหิวโหย และส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 8-10% จากก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด (ตามรายงาน Food Waste Index 2024 ของ UNEP)
ดังนั้น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงร่วมมือกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (Scholars of Sustenance Foundation: SOS) และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ริเริ่มโครงการจัดตั้งธนาคารอาหารของประเทศไทย (Thailand’s Food Bank) ขึ้น เพื่อสร้างต้นแบบการดำเนินงานเพื่อบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน (Food surplus) ของประเทศไทย
หลังจากเปิดตัวโครงการไปเมื่อปีที่แล้ว สวทช. และ SOS พยายามเร่งผลักดันการพัฒนาโครงการให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยได้จัดประชุมกลุ่มย่อยผู้ประกอบการอาหารด้านมาตรการส่งเสริมการบริจาคอาหารส่วนเกินของประเทศไทย เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการบริจาคอาหารส่วนเกิน ให้แก่ผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมจาก BOI มาตรการลดก๊าซเรือนกระจก จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon emission) ให้กับผู้ประกอบการ จากโปรแกรม ITAP เพื่อขยายผลการส่งต่ออาหารส่วนเกินให้เกิดขึ้นทั้งประเทศอย่างยั่งยืน
ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สวทช. บอกว่า ขณะนี้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 2 เรื่อง คือ แนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยของอาหารบริจาค (Safety Guidelines for Food Donation) พัฒนาโดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับจับคู่ผู้บริจาคและผู้รับบริจาค โดยเนคเทค
การกำหนดแนวปฏิบัติอาหารปลอดภัยสำหรับอาหารบริจาค จะเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการรับอาหาร การเก็บรักษาอาหาร การขนส่ง การแจกจ่ายอาหาร ไปจนถึงหลักปฏิบัติสำหรับผู้สัมผัสอาหาร เพื่อให้อาหารที่แจกจ่ายยังคงมีความปลอดภัยและเหมาะสมต่อการบริโภค ช่วยให้เกิดความมั่นใจทั้งต่อผู้ให้บริจาคและผู้รับบริจาค รวมถึงหน่วยงานที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการบริจาคอาหารในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ส่วนอีก 2 เรื่องที่กำลังดำเนินการ คือ การจัดทำข้อมูลการลดการปล่อยคาร์บอนจากการบริจาคอาหาร เพื่อผลักดันและสนับสนุนมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกของ อบก. ใน 2 โครงการ ได้แก่ การสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme) หรือ LESS และการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) หรือ T-VER โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากการบริจาคอาหารได้ในอนาคต
เรื่องสุดท้าย คือการจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอมาตรการส่งเสริมการบริจาคอาหารครอบคลุมทั้งสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีของผู้บริจาค และมาตรการลดการปล่อยคาร์บอนในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการบริจาคอาหารอย่างยั่งยืน
"ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะอาหารที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหารของประชาชนกลุ่มเปราะบาง จากข้อมูลที่ได้มีการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีอาหารส่วนเกินมากถึงเกือบ 4 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ประชากรที่มีรายได้น้อย และมีแนวโน้มประสบปัญหาการเข้าถึงอาหารมากถึง 3.8 ล้านคน"
ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ ก็รณรงค์ให้คนบริจาคอาหารส่วนเกินแก่ชุมชน ผ่าน SOS และ W Share Foundation หรือใช้แอปพลิเคชันจัดการขยะอาหาร เช่น Olio แอปส่งต่ออาหารที่กินไม่หมด แต่ยังกินได้ ตัวช่วยลดขยะตามร้านดังด้วยดีลขายอาหารราคาสุดคุ้ม และ Oho แอปแชร์อาหารหรือวัตถุดิบอื่นๆ ที่กินไม่ทันให้กับเพื่อนบ้านที่สนใจ
กรมควบคุมมลพิษ บอกว่า ขยะอาหารคิดเป็น 39% ของขยะมูลฝอยทั้งหมด 9.7 ล้านตันต่อปี หรือประมาณ 146 กิโลกรัมต่อคนต่อปี สัดส่วนอาหารขยะมากที่สุดมาจากลุ่มตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และผู้จำหน่ายอาหาร ตามด้วยกลุ่มผู้ประกอบอาหาร ภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม และสุดท้ายคือ กลุ่มครัวเรือน หรือผู้บริโภค
ขณะนี้ กรมควบคุมมลพิษ กำลังพุ่งเป้าไปที่บริการอาหารบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมีอาหารเหลือทิ้งจำนวนมาก เนื่องจากการเตรียมอาหารที่มากเกินไป โดยจะมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการอาหาร และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการขยะอาหารจากบุฟเฟ่ต์
อาหารส่วนเกิน หมายถึง อาหารที่เกินจากการบริโภค หรือเลยวัน Best Before แต่ยังปลอดภัยต่อการบริโภค เช่น อาหารสด เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรืออาหารสำเร็จรูปที่ถูกคัดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านรูปลักษณ์ เช่น บรรจุภัณฑ์มีรอยตำหนิ หรือป้ายชำรุด สินค้าตกเกรดไม่ได้เกณฑ์ หรือเศษวัตถุดิบจากการเตรียมอาหาร รวมไปถึงอาหารเสื่อมสภาพ เนื่องจากสภาพอากาศ การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม