HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
รีวิวกิน-เที่ยว-พัก “ASAI Bangkok” เต็มอิ่ม 3 วัน 2 คืน ตื่นตากับเสน่ห์กรุงเทพฯ ย่านเยาวราช-สาทร
by Dae Warunee
5 ธ.ค. 2566, 20:30
  1,684 views

ชี้เป้าที่เที่ยว-ที่พักใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก อาหารอร่อย เอาใจนักเดินทางรุ่นใหม่ด้วยบรรยากาศเก๋ๆ และห้องพักราคาน่ารัก กับ“ASAI Bangkok Chinatown ” และ “ASAI Bangkok Sathorn”

ครั้งนี้ Happeningbkk เล่าเรื่องสนุกของทริปเดินทัวร์ที่ ASAI Bangkok แบรนด์ใหม่ภายใต้เครือโรงแรมดุสิตอินเตอร์เนชั่นแนล จัดให้แบบเต็มอิ่ม 3 วัน 2 คืน พร้อมพักผ่อนใน 2 โรงแรม

วันที่ 1

เราเริ่มต้นด้วยการเดินทางมาที่ย่านไชน่าทาวน์ สังเกตโครงการ I’m Chinatown แล้วเลี้ยวซ้ายเข้ามาได้เลย ถึงแล้วก็ขึ้นไปชั้น 4 เช็กอินที่ “ASAI Bangkok Chinatown” เก็บกระเป๋า นั่งจิบเครื่องดื่ม รอสมาชิกของทริปนี้ที่ Communal Area พื้นที่ที่มาในคอนเซ็ปต์ Eat, Work, Play

ครบแก๊งแล้วเราออกสตาร์ทด้วยการเดินจาก “ASAI Bangkok Chinatown” มุ่งหน้า “เยาวราช” ชุมชนคนจีนที่ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องเศรษฐกิจการค้า-ร้านอาหาร แต่สั่งสมความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีต เป็นต้นกำเนิดของคนไทยเชื้อสายจีน และยังคงมีเสน่ห์มาตั้งแต่ครั้งอดีต-ปัจจุบัน

แวบเดียวก็ถึง “ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ” ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ศาลเจ้าของกลุ่มจีนแต้จิ๋วซึ่งเก่าที่สุดในเยาวราช สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 อยู่ในซอยเล่งบ๊วยเอี๊ยะ หรือ ตรอกอิสรานุภาพ เดิมเป็นตลาดค้าผักขนาดใหญ่ ปัจจุบันยังคงเป็นแหล่งขายวัตถุดิบของจีนทั้งสดและแห่ง รวมถึงร้านอาหารที่น่าสนใจอีกมากมาย

เดินมาอีกนิดเดียวก็เอาฤกษ์เอาชัยกันต่อที่วัดไทย “วัดกันมาตุยาราม” วัดที่สร้างโดยเจ้าสำนักหอนางโลม ซึ่งเป็นลูกสาวของยายแฟง เจ้าสำนักหญิงหากินในตรอกเต๊า (เยาวราช ซอย 8) ผู้ออกทุนทรัพย์ให้สร้างคือ วัดคณิกาผล สะท้อนให้เห็นความเฟื่องฟูในอดีต และวิวัฒนาการของเยาวราชผ่าน 'หญิงหากิน'

ไม่ไกลกันก็ถึงวัด “วัดบำเพ็ญจีนพรต” วัดเก่าในตรอกโสเภณีสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ว่ากันว่า ห้องหอซึ่งตั้งอยู่ล้อมรอบองค์พระประธาน เคยใช้เป็นโรงรับชำเราบุรุษมาก่อน

ออกแรงเดินกันไปสักพัก ก็ถึง “ร้านกู่หลงเปา” ร้านซาลาเปาแต้จิ๋วที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งอยู่บนถนนทรงวาด ถนนสายเล็กๆ เลียบแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเคยเป็นย่านการค้าที่เจริญที่สุดในพระนคร ตรงจุดนี้มีหลายคนเวิร์คช้อปทำซาลาเปากันแบบสนุก ซึ่งบอกเลยว่าเมื่อได้ลงมือนวดแป้งกันจริงๆ แล้ว เราเป็นคนนึงที่ขอ “ซื้อเค้ากิน” จะดีกว่า ฮ่า ฮ่า

จากนั้นเราก็เดินทอดน่องร่ำไรไปในย่านเยาวราช-สำเพ็ง ซึ่งบรรยากาศตอนบ่ายแก่ๆ ร้านเก่าเริ่มเก็บ ร้านใหม่เริ่มตั้ง มันก็มีอะไรให้ชมเยอะเลย

ลัดเลาะเยาวราชเสร็จ เรากลับถึงที่พักแยกย้ายไปล้างเนื้อล้างตัว เดินเล่นในโรงแรมสักพักใหญ่ ได้เวลามื้อค่ำ ที่ JAM JAM Eatery & Bar (แจมแจม อีทเทอรี่ แอนด์ บาร์) ห้องอาหารของ ASAI Bangkok Chinatown ที่นำเสนออาหารสไตล์ไทย-จีนร่วมสมัย เน้นการกินแบบแชร์ในบรรยากาศสบายๆ และความสนุกจากเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เปิดตั้งแต่ 06:30 น.- 22:00น. ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ

อย่าเพิ่งอิ่ม!! เพราะราตรีนี้ยังอีกยาวไกล ฟ้ามือสนิทคือเวลา Bar Hopping ด้วยความร่วมสมัยของเยาวราชทำให้วัฒนธรรมดื่มกินแบบ 'บาร์' ที่ตรงจริตกับทั้งนักดื่มรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเยาวราชจึงมีบาร์ที่น่าสนใจไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง ที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ผ่านการเดิน โดยแต่ละร้านมีเสน่ห์อันน่าสนใจแตกต่างกันไป

กิน-เที่ยวเสร็จแล้ว ได้เวลาทิ้งตัวบนที่นอนนุ่มๆ ในห้องพักที่ “ASAI Bangkok Chinatown” ดีไซน์ออกมาด้วยความเรียบง่ายในสไตล์มินิมัล ผสานกับความสบายตาของการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนและสีเอิร์ธโทนจากของตกแต่งต่างๆ ภายใน ทำให้ภาพรวมที่ออกมาของห้องพักอยู่ในมู้ดที่สงบ สะอาดและสบายตาเหมาะแก่วันพักผ่อน โดยทางโรงแรมประกอบไปด้วยห้องพักจำนวน 224 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามขนาดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น Comfy ห้องพักขนาด 16-18 ตารางเมตร, Roomy ห้องพักขนาด 19 - 22 ตารางเมตร และ Biggy ห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดของโรงแรม มาพร้อมโซฟาเบดให้นั่งเล่นกันสบายๆ

ด้านการตกแต่งนั้นแบรนด์อาศัยเน้นการออกแบบที่กลืนไปกับบรรยากาศโดยรอบ ASAI Bangkok Chinatown จึงมีกลิ่นอายของย่านเยาวราชให้เห็นทั่วทุกมุม ทั้งการตกแต่งด้วยกระเบื้องหลากสี การใช้ช่องเปิดแบบกลมที่พบได้ในสถาปัตยกรรมแบบจีน ภาพถ่ายของช่างภาพชื่อดัง DogDuckPugPed ที่บันทึกมุมต่างๆ ของย่านเยาวราชประดับตามห้องพัก แล้วเราก็พริ้มหลับไปพร้อมกับมองภาพเหล่านั้น

 

วันที่ 2

เช้าวันที่สอง เราทานมื้อเช้าที่ JAM JAM Eatery & Bar ก่อนเก็บกระเป๋าสัมภาระ พร้อมออกเดินทางสู่ “ASAI Bangkok Sathorn” ไม่เกิน 15 นาที โดยรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า โรงแรมี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสาทร ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเซนต์หลุยส์เพียง 5 นาที และยังสามารถเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์นักเดินทางรุ่นใหม่ที่ต้องการโรงแรมไลฟ์สไตล์ราคาสบายกระเป๋า

เราถึงที่หมาย พร้อมเช็กอินที่ชั้น 1 ลักษณะการตกแต่งของโรงแรมนี้ มีผลงานศิลปะและการตกแต่งภายในที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัดยกรรม สภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิตของคนในชุมชนและพื้นที่ย่านสาทรง ผสมผสานความโมเดิร์นไปกับประวัติศาสตร์เบื้องหลังบ้านและตึกอันเก่าแก่ในย่านนี้ ผนวกกับเป้าหมายที่ต้องการสะท้อนความเป็นท้องถิ่นให้แขกผู้เข้าพักรับรู้และเข้าถึงความรู้สึกเดียวกัน ภายในห้องพักมีความเรียบง่ายในองค์ประกอบ มีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น มีเตียงนอนที่ให้ความรู้สึกสุดสบาย ม้านั่งขนาดใหญ่ มุมโต๊ะที่นั่งทำงาน และมราเก็บเสื้อผ้าแบบเปิดที่ทำให้พักดูโปร่งตา

โดยโรงแรมนี้มีห้องพักทั้งหมด 106 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือโคซี่ (Cosy), โคซี่ทวิน (Cosy Twin) และบิ๊กกี้บังค์ (Biggy Bunk)

ได้เวลามื้อเที่ยง ทุกคนต่างอิ่มเอมไปกับอาหารหลากหลายเมนูจากร้าน “Err Urban Rustic Thai” ที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองของโรมแรม “ASAI Bangkok Sathorn” ต่อด้วย Craft Cola Workshop กิจกรรมเปลี่ยนของเหลือให้กลายเป็นของอร่อย สะท้อนปรัชญาห้องอาหาร Err ที่ ASAI และ เชฟโบ-ดีแลน ให้ความสำคัญต่อเรื่อง Food Waste รวมถึงการใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากผู้ประกอบการท้องถิ่นทั่วประเทศไทย ต่อด้วยมื้ออาหารเย็นที่จัดเต็มทั้งอาหารและรสชาติ และก็ถึงเวลาพักผ่อน...ราตรีสวัสดิ์

 

วันที่ 3

 

ก่อนเช็กเอาท์ตอนสายๆ ช่วงเช้าตรู่เรามีนัดไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ถนนสีลม นั่นก็คือ “วัดพระศรีมหาอุมาเทวี” หรือ “วัดแขก” วัดในศาสนาฮินดูซึ่งสามารถเดินไปจาก ASAI Bangkok Sathorn โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ผ่านซอยสีลม 11 เป็นศาสนสถานที่มีประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการอยู่ร่วมกันของทุกคนในชุมชน ต่อด้วย “ตลาดวัดแขก”​ ความครึกครื้นก่อนเวลาไปทำงานในซอยสีลม 20 ที่ผู้คนจะมาจับจ่ายซื้อสินค้าหลากหลายชนิด เพราะเป็นที่ตั้งของตลาดสด และแผงอาหารนานาชนิด เป็นที่ฝากท้องของพนักงานออฟฟิศในยามเช้า และจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสอาหารแบบโลคัลของคนกรุงเทพ กลางซอยสีลม 20 ยังเป็นที่ตั้งของ “มัสญิดมีราซุดดีน” ส่วนท้ายซอยที่เชื่อมกับถนนสุรวงศ์ ยังเป็นที่ตั้งของ “Neilson Hays Library” ห้องสมุดสไตล์นีโอคลาสสิกอายุ 100 ปี โดยมีสถาปนิกคนเดียวกันกับที่ออกแบบพระที่นั่งอนันตสมาคม 

...นับเป็นรีวิวกิน-เที่ยว-พัก แบบเต็มอิ่มสำหรับ 3 วัน 2 คืน ในกรุงเทพฯ ย่านเยาวราช-สาทร ครั้งหน้า Happeningbkk มีทริปไหนมาเล่าอีก รอติดตามชมกันได้เลย

 

ข้อมูลโรงแรม

(1) โรงแรม อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์

ที่อยู่ 531 ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จังหวัดกรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์ +66 (0) 2220 8999

อีเมล asai.bct@dusit.com

เว็บไซต์ https://www.asaihotels.com/locations/bangkok-chinatown/

Facebook @asaichinatown

Instagram @asaibangkokchinatown

 

(2) โรงแรม อาศัย กรุงเทพฯ สาทร

ที่อยู่ 195 ซอยสาทร 12 ถ.สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก จังหวัดกรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์ +66 (0) 2231 8999

อีเมล asai.bst@dusit.com

เว็บไซต์ https://www.asaihotels.com/locations/bangkok-sathorn

Facebook @asaisathorn

Instagram @asaibangkoksathorn

 

ABOUT THE AUTHOR
Dae Warunee

Dae Warunee

นักกฎหมายที่หยั่งรากบนเส้นทางสายนักเขียน เซียนเรื่องกินเที่ยว หวังเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์

ALL POSTS