HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
River City Bangkok ปลุกงานศิลป์ระดับโลกให้กลับมีชีวิตอีกครั้งกับสองนิทรรศการเด่น
by HappBKK
13 เม.ย. 2562, 17:02
  2,620 views

River City Bangkok ปลุกงานศิลปะชั้นครูให้มีชีวิตด้วยสื่อมัลติมีเดียสุดล้ำครั้งแรกในเอเชีย กับนิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY และ ITALIAN RENAISSANCE จัดแสดงนานหกเดือนเต็ม

         River City Bangkok ศูนย์รวมงานศิลปะและวัตถุโบราณชั้นเยี่ยมของเอเชีย บนฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เอาใจคนรักศิลปะทุกเพศวัยด้วยการจัดนิทรรศการมัลติมีเดียระดับโลกซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีมาแล้วที่กรุงเบอร์ลินและมอสโคว และกำลังจะจัดแสดงเป็นครั้งแรกในเอเชียที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ FROM MONET TO KANDINSKY (ฟรอม โมเน่ต์ ทู คันดินสกี้) และ ITALIAN RENAISSANCE (อิตาเลียน เรอเนสซองส์) โดยทั้งสองนิทรรศการจะนำเสนอด้วยการฉายโปรเจ็กเตอร์บนกำแพงสูง 3 เมตรบนพื้นที่นับพันตารางเมตรของอาร์ซีบี แกลเลอเรีย (RCB Galleria) ชั้น 2 ซึ่งเป็น Contemporary Art Space ของ River City Bangkok โดยนิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน – 31 กรกฎาคม ต่อด้วยนิทรรศการ ITALIAN RENAISSANCE ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 31 ตุลาคม

        ลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ River City Bangkok เปิดเผยว่า “River City Bangkok มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำนิทรรศการสุดพิเศษ FROM MONET TO KANDINSKYรวบรวมผลงานของศิลปินยุโรปผู้ทรงอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตกมากถึง 16 ท่าน จัดแสดงผลงานมากกว่า 1,500 ชิ้น ในรูปแบบมัลติมีเดียจาก 20 พิพิธภัณฑ์ทั่วโลก ต่อด้วยนิทรรศการ ITALIAN RENAISSANCE นำเสนอผลงานของ 4 สุดยอดแห่งศิลปินจากสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี คือ เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ซึ่งในปีนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ทั่วโลกได้รำลึกถึงครบรอบการเสียชีวิต 500 ปีของมาสเตอร์ท่านนี้

         นอกจากนี้ได้นำเสนอผลงานของมิเคลันเจโล (Michelangelo) ราฟาเอล (Raphael) และบอตติเชลลี (Botticelli) มารวมไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลศิลปะในประเทศไทย อีกทั้งเป็นการสนับสนุนการศึกษาด้านศิลปะ โดยไอเดียการจัดนิทรรศการนี้ เริ่มมาจาก VISUAL MULTIMEDIA PROJECTS บริษัทระดับอินเตอร์ ที่เชี่ยวชาญด้านงานนิทรรศการในรูปแบบมัลติมีเดียอันทันสมัย โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ สร้างสรรค์นิทรรศการ ประกอบด้วย กราฟิกอนิเมชั่น เครื่องฉายภาพที่ทันสมัย คมชัด รวมถึงจอขนาดใหญ่ และระบบเสียงรอบทิศทาง ซึ่งเคยมีผลงานการจัดเป็นนิทรรศการและประสบความสำเร็จอย่าสูงมาแล้วในต่างประเทศ

         ลินดา กล่าวต่อไปว่า “นิทรรศการนี้ จึงนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ชื่นชอบศิลปะ ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจจะได้มาชมงานด้วยความเพลิดเพลิน และสนุกไปกับศิลปะชิ้นมาสเตอร์พีซระดับโลกในบริบทร่วมสมัย อันเป็นเจตนารมณ์ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ที่ต้องการนำเสนอศิลปะเพื่อสุนทรียะและความรู้ให้คนทุกช่วงวัยไปพร้อมๆ กัน โดยตลอดระยะเวลาที่มีนิทรรศการ FROM MONET TO KADINSKY และ ITALIAN RENAISSANCE จะมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจด้วย อาทิ เวิร์กช็อป สัมนา การแสดงด้านศิลปะและดนตรีที่เชื่อมโยงกัน เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจ และมีส่วนร่วมในนิทรรศการมากขึ้น อีกทั้งยังได้ใกล้ชิดกับผู้ที่มีชื่อเสียงในแวดวงศิลปะทั้งในประเทศไทยและระดับโลก”

        สำหรับศิลปินที่มีผลงานมาจัดแสดงในรูปแบบมัลติมีเดียของนิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY คือ โคลด โมเนต์ (Claude Monet) เอ็ดการ์ เดอกาส์ (Edgar Degas) พอล โกแก็ง (Paul Gauguin) อ็องรี รูสโซ (Henri Rousseau) อ็องรี ตูลูส-โลเทร็ค (Henri Toulouse-Lautrec) กุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) พอล ซีญัค (Paul Signac) พีท มอนเดรียน (Piet Mondrian) อเมเดโอ โมดิกลิอานี (Amedeo Modigliani) วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh) ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์ (Pierre August Renoir) ยวน กริซ (Juan Gris) พอล เคล (Paul Klee) เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edward Munch) คาซิมีร์ มาเลวิช (Kazimir Malevich) และวาซิลี คันดินสกี (Wassily Kandinsky) ซึ่งศิลปินทั้งหมดนี้ มีสิ่งหนึ่งเหมือนกันคือการปฏิเสธสไตล์ต่างๆ ในอดีต แล้วมุ่งไปที่สิ่งใหม่ และทดลองใช้รูปแบบ วัสดุ และเทคนิคที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อค้นหารูปแบบทางทัศนศิลป์ อันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของยุคสมัย

         FROM MONET TO KANDINSKY จึงเสมือนการเดินทางไปสู่โลกแห่งศิลปะในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมและสังคมกำลังเข้าสู่การปฏิวัติอย่างแท้จริง ที่ทุกปีเกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียง โรงภาพยนตร์ เครื่องพิมพ์ดีด ไฟฟ้า เครื่องบิน โทรศัพท์ เครื่องเอ็กซ์เรย์ และในช่วงที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทั่วโลกก็ตื่นตระหนกไปกับความขัดแย้งทางการเมืองและสงคราม อันนำมาซึ่งกระแสทางศิลปะ (art movement) หรือกลุ่มลัทธิทางศิลปะต่างๆ เช่น กลุ่มลัทธิเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ (Expressionism) ศิลปะนามธรรม (Abstract Art) กลุ่มลัทธิเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) และกลุ่มลัทธิอนุตรนิยม หรือซูพรีมาติสม์ (Suprematism) และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดรวมเรียกว่า “ศิลปะสมัยใหม่” (Modern Art) ในเวลาต่อมา ผลงานจิตรกรรมของศิลปินในกลุ่มโมเดิน์นนิสม์มักเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ซ่อนเร้นอยู่ซึ่งไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา จึงต้องเดินชมโดยรอบเพื่อเปิดประสบการณ์ในพื้นที่จัดแสดง ซึ่งแตกต่างจากนิทรรศการโดยทั่วไป เสมือนเป็นการปลุกภาพงานศิลปะให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพราะเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วงานศิลปะของศิลปินกลุ่มโมเดิร์นนิสต์ คือ ผู้บุกเบิกอนาคตแห่งเทคโนโลยี

         ในขณะที่ยุคเรอเนสซองส์ (Renaissance) ก็มีความสำคัญต่ออารยธรรมโลกไม่แพ้กัน ยุคนี้อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 14-15 เป็นยุคแห่งการฟื้นฟูศิลปวิทยาการในยุโรป หลังจากที่ได้ผ่านยุคกลางหรือยุคมืด (Medieval Age) ซึ่งกินระยะเวลายาวนานกว่าหนึ่งพันปี คำว่า “Renaissance” เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “การเกิดใหม่” (Rebirth) ในแง่ของศิลปะ ยุคนี้เต็มไปด้วยศิลปินผู้ยิ่งใหญ่และผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ไม่ว่าจะเป็นภาพ Mona Lisa และ The Last Supper ของเลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ภาพวาดบนเพดานของโบส์ซีสทีน (The Sistine Chapel) อันตระการตาของมิเคลันเจโล (Michelangelo) ภาพวาดสามมิติบนฝาผนังหลายชิ้นที่นครรัฐวาติกันจากฝีมือของราฟาเอล (Raphael) และภาพ The Birth of Venus ของบอตติเชลลี (Botticelli) ทั้งหมดนี้จะถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย

          นิทรรศการ FROM MONET TO KANDINSKY เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน – 31 กรกฎาคม ต่อด้วยนิทรรศการ ITALIAN RENAISSANCE ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม – 31 ตุลาคม เวลา 10:00-22:00 น. ณ RCB Galleria ชั้น 2 River City Bangkok ติดตามอัพเดทกิจกรรมต่างๆ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่จัดแสดงนิทรรศการได้ที่นี่ หรือโทร. 02-237-0077 ถึง 78 ซื้อบัตรได้ทาง ZipEvent เพียงคลิกที่นี่

 

 

[บทความประชาสัมพันธ์]

 

ABOUT THE AUTHOR
HappBKK

HappBKK

Live Every Day

ALL POSTS