HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
ชวนชิม Seven Sins เมนูใหม่สุดประณีตจาก Enoteca
by Manta
24 มิ.ย. 2566, 18:00
  596 views

Enoteca ร้านอาหารอิตาเลียนระดับไฟน์ไดนิงที่อยู่คู่กรุงเทพฯ มานาน (เกือบ 20 ปี!) ได้ฤกษ์เปิดตัวเซ็ทเมนูใหม่ที่เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่เดือนนี้ยาวไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน โดยเชฟสเตฟาโนนำวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียมที่เราคุ้นเคยกันดีมาปรุงอย่างประณีตด้วยเทคนิคที่หลากหลาย จนได้อาหารที่แม้หน้าจะดูมินิมัลแต่รสชาติซับซ้อนอย่างสมดุลและเรียงร้อยกันอย่างลื่นไหล แถมยังมีไวน์ชั้นดีจากอิตาเลียนจับคู่อาหารแต่ละคอร์สด้วยฝีมือการคัดเลือกของคุณนิโคลาเจ้าของร้าน

บอกไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งตกใจกับชื่อ Seven Sins (หรือบาปมหันต์ทั้งเจ็ดตามคำสอนในศาสนาคริสต์) คุณนิโคลาอธิบายว่าไม่ได้มีนัยทางศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น ตั้งให้แขกสงสัยและสร้างบทสนทนากันสนุก ๆ ไปอย่างนั้น กินได้ไม่ต้องไปไถ่บาป ไม่ตกนรกแน่นอน

เริ่มกันที่อะมูสบูชเรียกน้ำย่อยที่ไม่ได้มาเป็นคำเดียวแต่เรียงกันมาสามก้อน คือสปริงโรลเนื้อปู มาการองโกโก้สอดไส้ตับไก่ และชีสกอร์กอนโซลารสเข้มเสิร์ฟพร้อมบีทรู้ทกรอบ ที่มีความสมดุลที่ละเมียดละไมทั้งคาวหวาน

คอร์สแรกคือกุ้งแลงกูสตินเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำและหมึกที่มีความเค็มนิด ๆ สโมคกี้หน่อย ๆ ผสมกับกลิ่นหอมของโหระพาอิตาเลียนที่โรยหน้า เคียงมาคือสลัดเฟนเนลอ่อนที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและล้างปากเตรียมอร่อยกับจานต่อไป

จานที่สองคือหอยเชลล์จากอเมริกาเสิร์ฟแบบคาร์ปาชโช่บางเฉียบ หยดวานิลลาออยล์ ที่ช่วยทำให้หอยเชลล์ (ที่ปกติจืด ๆ หยุ่น ๆ) ให้มีบอดี้และความนวลแบบถั่วขึ้นมา โดยไม่ปรากฎความเอียนเลี่ยนของวานิลลาอย่างที่คาดเอาไว้ ข้าง ๆ กันคือพิวรีมะเขือเทศสดและมะกอก (ไม่มีอะไรจะอิตาเลียนไปกว่านี้อีกแล้ว) ให้รสเปรี้ยวผลไม้และเค็มแบบของดองที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับรสชาติโดยรวมของจาน ถือว่าเป็นการนำรสชาติที่แตกต่างแทบจะคนละขั้วมาผสมผสานกันได้อย่างน่าสนใจ ทำให้มีความสมดุลและเบาบางสะอาดปาก จานนี้เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังอุ่นชิ้นเล็ก ๆ ทำจากบัควีท จะกินแยกต่างหากหรือปาดอาหารในจานกินพร้อมกันก็ได้

จานที่สามเรียกว่าปราบเซียนอยู่หน่อย คือเป็ดจากฝรั่งเศสที่นำมาผ่านการปรุงรส (ที่ซับซ้อนมาก ฟังแล้วก็ยังงง ๆ) และเสิร์ฟแบบแล่บางเฉียบราดซอสอูนิและน้ำมันทารากอน ความเค็มและสาบนิด ๆ ของเป็ดสดชื่นขึ้นมาหน่อยเพราะซอสและน้ำมันกลิ่นสมุนไพร แต่ก็ยังมีความวุ่นวายของรสชาติ สัมผัสของน้ำมัน และกลิ่นมากมายในปาก ที่ช่วยลดความสับสนได้คือเคลหยิก ๆ ที่ทอดจนกรอบฟู ถึงจะมาพร้อมน้ำมันที่ใช้ทอดแต่ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ประมาณหนึ่ง

จานต่อมาคือสปาเก็ตตีที่ต้มในน้ำซุปปลาหรือดาชิ เสิร์ฟพร้อมหมึกและคาเวียร์ ดูจากส่วนผสมน่าจะออกมาคาว แต่ไม่เลย ตัวพาสต้ามีความหอมและเค็มปะแล่มจากดาชิ ส่วนผสมอื่น ๆ รสชาติล้อกันไปไม่วุ่นวาย เหมือนกำลังกินเมนูอาหารทะเลรสชาติเบา ๆ ไม่รู้สึกเลี่ยนหรือหนักจนเกินไป

คอร์สที่ห้าก็ยังเป็นพาสต้า คือยอคคีเสิร์ฟกับหน่อไม้ฝรั่ง โฟมฟัวกราส์รสชาตินุ่ม และพาร์มาแฮมที่นำไปทำให้กรอบช่วยเพิ่มความเค็มนัวให้กับยอคคีเป็นครีมข้น ฟัวกราส์ในโฟมกลิ่นรสเบาบางกำลังดี เป็นจานที่นุ่ม ๆ ลอย ๆ แต่เล่นเอาอิ่มเหมือนกัน

จานที่หกที่เป็นจานหลักคือเนื้อแกะวากิวจากออสเตรเลีย (จากฟาร์มเดียวที่ได้รับการรับรองว่าเป็นแกะที่เลี้ยงแบบวากิว จนได้เนื้อที่นุ่มเนียนเทียบเท่าเนื้อวัววากิวและมีไขมันแทรกในเนื้อมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์) เสิร์ฟกับแลมบ์จูสและเดมิเกลซรสชาติเข้มข้น และถั่วชิคพี

จานสุดท้ายเป็นของหวานที่สดชื่นมาก ๆ คือไอศกรีมน้ำผึ้งกลิ่นหอมเตะจมูก หวานอ่อน ๆ กำลังดี โรยพริกไทยเสฉวนบดให้กลิ่นฉุนนิด ๆ คานความหอมของน้ำผึ้ง วางมาบนเกล็ดน้ำแข็งใส่ขิงและตะไคร้ สดชื่น เย็นฉ่ำ หวานหอม และเข้ากันมาก ๆ

ใครที่กำลังมองหามื้ออาหารที่ประณีต เรียบ หรู แบบไม่ต้องตะโกน ในบรรยากาศสบาย ๆ ของบ้านเก่าสุดคลาสสิค ห้ามพลาดเมนูใหม่นี้ด้วยประการทั้งปวง นอกจากนี้ Enoteca ยังมีเมนูอะลาคาร์ทอื่น ๆ เสิรฟตามปกติ และไวน์จากอิตาลีที่มีให้เลือกมากกว่า 400 ฉลากด้วย ร้านเปิดบริการทุกวัน 17.30 น. ถึง 23.00 น. มีที่จอดรถมากมาย หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปลงพร้อมพงษ์แล้วเดินเข้าซอย 27 เพิ่มความหิวก็ได้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจองโต๊ะได้ที่เว็บไซต์

[เรื่องและภาพโดย Manta]

 

ABOUT THE AUTHOR
Manta

Manta

นักดื่ม นักจิบ ดื่มบ้างบ่นบ้าง

ALL POSTS