รู้จัก “อาร์มายัก” สปิริตโบราณจากฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศสไม่ได้มีดีแค่ไวน์และคอนยักเท่า ยังมี อาร์มายัก (Armagnac) ที่เป็นของเชิดหน้าชูตา เพราะผลิตได้ที่ฝรั่งเศสเท่านั้นแถมยังหายากเพราะวิธีการทำซับซ้อนกว่า
คอนยักอาจจะเป็นสปิริต “แบบผู้ใหญ่ๆ” ที่ดูจะเก่าแก่และขลัง แต่ขอบอกว่าอาร์มายักเก๋ากว่านั้นเยอะ เพราะมีหลักฐานเป็นลายลักอักษรว่ามีการทำอาร์มายักตั้งแต่ปี 1411 ก่อนที่จะเริ่มมีการผลิตคอนยักถึง 200 ปี และยังมีหลักฐานวัตถุอีกจำนวนหนึ่งที่บ่งบอกว่าจริงๆ แล้วมีการทำอาร์มายักมาก่อนหน้านั้นอีกอย่างน้อย 100 ปี จึงเรียกได้ว่าอาร์มายักคือเหล้ากลั่นที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก กำเนิดขึ้นจากพระในแคว้นกาสโซนี (Gascony) ใกล้กับแคว้นบอร์โดซ์ ที่คิดค้นวิธีการกลั่นและบ่มอาร์มายักขึ้นมาเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค โม้กันว่ารักษาได้ถึง 40 อาการเลยทีเดียว
อาร์มายัก ผลิตขึ้นจากองุ่น 4 พันธุ์หลักๆ คืออูยีบลัง (ugni blanc หรือ Saint-Emilion) ฟอย บลองเช (Folle Blanche) บาโก (Baco หรือ Baco 22A ที่เป็นพันธุ์องุ่นผสมระหว่าง Folle Blanche ของฝรั่งเศส และ Noah ของอเมริกา) และสุดท้ายคือโคลอมบาร์ด (Colombard) ที่มักนำมาผสมเป็นเบสสร้างรสชาติ แตกต่างจากคอนยักที่ใช้อูยีบลังเป็นหลัก
อาร์มายักผลิตกันในเขตควบคุมการผลิต 3 แห่งคือ บาส อาร์มายัก (Bas Armagnac) ที่ถือว่าเป็นเขตผลิตอาร์มายักที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะอาร์มายักที่ได้มีรสชาตินุ่มนวล มีกลิ่นพลัมเป็นเอกลักษณ์ อีกเขตหนึ่งคือเตนาเรเซ (Tenareze) ที่มีสภาพดินใกล้เคียงกับแคว้นแชมเปญ ให้อาร์มายักกลิ่นหอมดอกไม้ บอดี้หนักกว่าเขตอื่นๆ และมีรสชาติใกล้เคียงกับคอนยัก เขตสุดท้ายคือ โอต์ อาร์มายัก (Haute Armagnac) ที่มีภูเขาเยอะ ให้รสชาติอาร์มายักแบบหยาบๆ ดิบๆ เมื่อก่อนเขตนี้ผลิตอาร์มายักได้เยอะที่สุด แต่ตอนนี้ผลิตได้น้อยแค่ 1% เท่านั้น
ความแตกต่างหลักๆ ระหว่างคอนยักและอาร์มายักคือขั้นตอนการผลิต เมื่อได้ไวน์ดิบมาแล้ว ไวน์ดิบจากองุ่นแต่ละพันธุ์จะถูกนำมากลั่นต่อเนื่องเพียงครั้งเดียว (column still ) จนได้แอลกอฮอลประมาณ 53-60% ส่วนจะคอนยักจะกลั่นสองครั้ง (pot still) ทำให้ได้แอลกอฮอลที่สูงกว่า จากนั้น ไวน์ที่กลั่นแล้วจะนำไปบ่มในถังโอ๊คใหม่ และถ่ายลงในถังโอ๊คเก่าเพื่อเพิ่มรสชาติ ถังโอ๊คที่ว่านี่ไม่ได้ถูกจำหน่ายไปให้โรงกลั่นวิสกี้เอาไปบ่มเหล้าต่อแต่อย่างใด เขาใช้ทำอาร์มายักกันตั้งแต่เป็นถังใหม่เวอร์จิ้นไปจนถึงวาระสุดท้ายแบบพังประกอบร่างไม่ได้แล้วนั่นแหละถึงจะทิ้ง อารมณ์เหมือนหม้อพะโล้สามสิบปีอะไรทำนองนั้น พอได้เวลาและรสชาติตามที่ต้องการแล้วก็นำบรรจุขวด รุ่นหรือฉลากที่แสดงความเก่าของเหล้าก็แบ่งคล้ายๆ กับคอนยัก ทั้งแบบเบลนด์ (ผสม) หรือแบบวินเทจ(องุ่นพันธุ์เดียว) แต่มีความตามใจฉันมากกว่าคือบางทีก็บอกจำนวนปีกันมาเลย ไม่ต้องมาเป็นโค้ดลับให้ปวดหัว
ส่วนที่สำคัญคือ รสชาติและกลิ่น ทั้งคอนยักและอาร์มายักคือไวน์กลั่นแล้วนำไปบ่ม แต่อาร์มายักมีความหอมกว่า นุ่มกว่าทั้งกลิ่นและรสชาติ ไม่ฉูดฉาดบาดจมูกบาดคอ ทำให้สามารถจิบได้แบบนีทคือไม่ใส่อะไรเลยได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเติมน้ำเย็นน้ำแข็งอะไรให้เสียรสชาติ
ถ้าอยากทำความรู้จักอาร์มายักให้มากขึ้น แนะนำให้แวะไปที่ Exquisite Elixir Armagnac Tasting Room ซอยสุขุมวิท 31 ที่มีอาร์มายักมากมายให้เลือกชิมและช้อป สนนราคาไม่แพงไปกว่าวิสกี้คุณภาพพรีเมียมเท่าไหร่นัก แต่ขวดหายากราคาดุดันก็มีไว้รอท่านักดื่มใจถึงเหมือนกัน ไม่แน่ว่าชิมแล้วอาจจะติดใจ เป็นสาวกอาร์มายักตั้งแต่จิบแรกก็ได้
Story by Manta