HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
จริงหรือ? ที่ว่าแฟชั่นมีสูตรสำเร็จ
by ขเจน
25 ส.ค. 2560, 09:39
  3,926 views

สูตรสำเร็จการสร้างแบรนด์แฟชั่น คืออะไร?

เป็นเรื่องน่าคิดและติดตามว่า ดีไซเนอร์แต่ละคนหรือแบรนด์แฟชั่นแต่ละแบรนด์ เค้าประสบความสำเร็จกันขึ้นมาได้อย่างไร แต่จริง ๆ เราอาจจะต้องนิยามความสำเร็จที่ไม่เหมือนกันของแต่ละแบรนด์ออกมาให้ได้ก่อน

บางแบรนด์มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ในการพาตัวเองสู่ความเป็น global brand ที่มีร้านสาขาเปิดอยู่ทั่วทุกมุมโลก ในขณะที่บางแบรนด์ขอมีร้าน flagship เพียงร้านเดียวในโลกนี้ และขอแค่ขายดีแม้มีแฟนประจำในวงไม่กว้าง เท่านี้ก็พอใจแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วเราพบว่า นอกจากนิยามความสำเร็จที่ต่างกัน การไปสู่ความสำเร็จนั้น ๆ ของแต่ละคนหรือแต่ละแบรนด์มันไม่เคยมีสูตรสำเร็จ

ในขณะที่หลายคนให้คำแนะนำนักเรียนแฟชั่นกันมากว่า เรียนจบแล้วอย่าเพิ่งตั้งแบรนด์ของตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตั้งแล้วจะโตและไปรอด ขอให้เข้าไปทำงานเป็นลูกน้องคนอื่นในแบรนด์อื่น ๆ เพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมของโลกธุรกิจแฟชั่นและการทำงานออกแบบที่จะขายได้ก่อน แต่ Proenza Schouler ของ Jack McCollough และ Lazaro Hernandez จากนิวยอร์กนั้น ก่อตั้งขึ้นแทบจะทันทีที่สองคนนี้เรียนจบ เพราะสองคนนี้เป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนเรียน ขออาจารย์ทำคอลเลคชั่นธีสิสด้วยกัน และจบมาแบบอยากหางานทำคู่กันแต่ไม่มีที่ไหนรับ ก็เลยตัดสินใจตั้ง Proenza Schouler ขึ้นมาโดยเอานามสกุลเก่าของคุณแม่ของทั้งสองคนมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์

สิบปีผ่านไป Proenza Schouler กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่เติบใหญ่ที่สุดแบรนด์หนึ่ง ใหญ่ขนาดไหนก็วัดได้ว่าที่เมืองไทยมีบูติคของตัวเองมาเปิด และมีสาวไทยจำนวนมากเหลือเกินที่มีกระเป๋าของสองคนนี้คล้องไหล่ไปทำงาน

Karl Lagerfeld อาจเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกแฟชั่นเคยมี แต่มองให้ดี ๆ เราพบว่า คาร์ลดูจะไปได้ดีกว่าในฐานะแฟชั่นดีไซเนอร์ของแบรนด์เก่าแก่อย่าง Chanel และ Fendi (หรือจะรวม Chloe ในอดีตด้วยก็ได้) แต่กับแบรนด์ Karl Lagerfeld ของตัวเองนั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จแบบนั้น

เราไม่ได้หมายถึงในแง่ยอดขาย เพราะจริง ๆ ของเค้าก็คงจะขายได้ประมาณหนึ่งอยู่แล้ว แต่เราแอบคิดว่า สินค้าแฟชั่นพะยี่ห้อ Karl Lagerfeld ดูจะเป็นงานขายชื่อมากกว่างานขายดีไซน์ที่ “มีอะไร” เสียด้วยซ้ำ เหมือนคาร์ลทำเสื้อผ้าที่ระลึกมาขายให้แฟน ๆ ได้มีเก็บมากกว่าจะเป็นงานดีไซน์ที่แหลมคมอะไร..แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดถ้าของมันขายได้

Martin Margiela ก่อตั้ง Maison Martin Margiela (ซึ่งปัจจุบันคำว่า Martin โดนตัดออกไปแล้ว) ขึ้นมาด้วยจุดเด่นของความไม่มีตัวตน คือไม่มีตัวตนชนิดที่ว่า ดีไซเนอร์ไม่เคยโผล่หน้าออกมา take a bow หลังแฟชั่นโชว์จบ สื่อไหนถ้าอยากขอสัมภาษณ์มาร์ติน ไม่มีปัญหา ส่งแฟกซ์คำถามมานะ แล้วเดี๋ยวจะแฟกซ์คำตอบกลับไปให้ แต่เรื่องมาสัมภาษณ์กันตัวต่อตัวนั้นไม่ต้องพูดถึง

เวลาทำแฟชั่นโชว์นางแบบนายแบบจะไม่ค่อยได้เปิดหน้าเดินเหมือนแบรนด์อื่น ๆ เพราะมาร์ตินต้องการให้โฟกัสของโชว์อยู่ที่เสื้อผ้าจริง ๆ ไม่ใช่อยู่ที่ว่าใครมาเดินให้ ทั้งหมดนี้บางคนมองว่าเพี้ยนเต็มที แต่ปรากฏว่า Margiela มีแฟนประจำติดตามผลงานอยู่ไม่ใช่น้อย (เพราะงานเค้าก็ดีจริงและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจนถูกใจใครหลาย ๆ คน..รวมทั้งเรา) และต้องพูดว่า Margiela ก็เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ influential มากมาตั้งแต่ยุคของตัวมาร์ตินเอง เรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบันที่มี John Galliano เป็นดีไซเนอร์

ความดาร์คของผลงานที่ Rick Owens ออกแบบ ไม่ใช่สิ่งที่คนในวงกว้างจะถูกใจแน่นอน แต่ถามว่าทำไมริคจึงเป็นแบรนด์ที่มีคนติดตามมากมายอย่างทุกวันนี้? คำตอบก็คือในงานดีไซน์ที่ดาร์คนั้น มันมีคุณภาพของการตัดเย็บและการเลือกใช้วัสดุซ่อนอยู่ไง แต่คุณภาพมันก็เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งในหลายองค์ประกอบ ที่สุดแล้ว creative idea ของริคในแต่ละซีซั่นมันโดนใจแฟน ๆ ทุกที (แม้ว่าจะมีนักวิจารณ์บางคนค่อนแคะว่า ริคทำอะไรออกมาเหมือนเดิมทุกซีซั่นก็ตาม..ซึ่งในฐานะแฟนขอบอกว่าไม่จริง)

ส่วนในแง่ธุรกิจ ไม่มีใครเสี้ยมสอนริคว่าต้องเอาตัวเองออกมาจากแอลเอ แล้วมาเบสอยู่ที่ปารีส แต่ริคคิดเอาเองว่า ถ้าจะผันตัวเข้าสู่ cycle ของโลกแฟชั่นให้ทัน ก็ต้องเอาตัวเองมาอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตในยุโรปให้มากที่สุด แล้วเวลาทำโชว์ก็ทำมันที่ปารีสไปเลย ซึ่งปรากฏว่าในที่สุดแล้ว..มันเวิร์ค

ยกตัวอย่างมาสามสี่เคส ไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนจะมอบให้ แต่เราคิดว่าดีไซเนอร์แต่ละคนก็แค่เลือกทำในสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง และเรียนรู้ว่าควรจะเอาตัวเองวางไว้ตรงไหน แล้วก็มุ่งหน้าไปทางนั้น เวิร์คไม่เวิร์คเดี๋ยวก็รู้เอง

ABOUT THE AUTHOR
ขเจน

ขเจน

ทำงานเขียนในบริษัทพีอาร์ แต่ว่าบ้าหนังและชอบแฟชั่นจนพาตัวเองออกเดินทางแรดอะราวด์ไปทั่วโลกเพื่อดูหนังและชาบูดีไซเนอร์ที่ชอบ แต่ทุกคนคิดว่าหาเรื่องไปช้อปปิ้งมากกว่า #เอิ่ม

ALL POSTS