Global Culinary Stories: เมื่อการทูตเดินด้วยท้อง
นอกจากจะใช้การทูตแล้ว การกินยังเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีที่จะทำให้เราเข้าใจและชื่นชมทรัพยากรทางวัฒนธรรมของชาติอื่นๆ ได้ และนี่ คือ หัวใจของหนังสือ “Global Culinary Stories” ที่เล่าเรื่องเบื้องหลังวัฒนธรรมของคนชาติต่างๆ ผ่านอาหารและเครื่องปรุง ส่วนสูตรอาหารเป็นแค่ของแถมเท่านั้น
แคธลีน โผกรุด หรือแคธี สาวฮ่องกงที่ย้ายมาอยู่เมืองไทยนานกว่า 30 ปี ใช้เวลานานถึง 3 ปี ในการพูดคุยกับทูตและเจ้าหน้าที่ทางการทูตประเทศต่างๆ เชฟชื่อดัง และผู้เชี่ยวชาญในวงการอาหารมากมาย เพื่อจัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้น
“โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นในช่วงโควิด ที่เราทุกคนอยู่บ้าน ดูทีวีไปเรื่อยๆ ดิฉันบังเอิญได้ดูรายการทำอาหารของต่างประเทศ และได้มีโอกาสชมสารคดีเกี่ยวกับเปรู ที่เล่าเรื่องอาหารย้อนประวัติศาสตร์ ไล่ลงมาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้สนใจอยากรู้เรื่องต่อ เลยเกิดไอเดียที่จะทำหนังสือสักเล่ม ซึ่งเล่าถึงที่มาวัฒนธรรมของอาหารในแต่ละประเทศ เพื่อให้เราเข้าใจคนในประเทศนั้นๆ มากขึ้น”
จากไอเดียนี้ แคธีคุยกับทูตหลายประเทศและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่กว่าจะได้แต่ละบท ต้องใช้เวลาและพลังมากมาย ทั้งในการสัมภาษณ์ หาและรวบรวมข้อมูล ตลอดจนการถ่ายภาพที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน เพื่อให้หนังสือเล่มนี้เป็นสื่อกลางในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนต่างวัฒนธรรม
ดาตุกโจจี แซมูแอล อดีตเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในทูตที่สนับสนุนให้โครงการนี้เกิดขึ้นจริงกล่าวว่า “หนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของศาสตร์และศิลป์ในการปรุงอาหาร ที่จะหลอมรวมพวกเราเข้าด้วยกัน ทลายกำแพงพรมแดนลง และสร้างมิตรภาพนานาชาติขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สูตรอาหารแต่ละสูตรรวมถึงเรื่องเล่าในหนังสือเล่มนี้จะทำให้เราชื่นชมหัวใจหลักของอาหารแต่ละชาติมากขึ้น”
เส้นทางการทูตผ่านอาหารใน Global Culinary Story เริ่มจาก 2 เมนูพิเศษที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้นำมาตีพิมพ์ในหนังสือเล่มนี้ คือ แกงเขียวหวานไก่ไข่เค็ม และไก่นาบกระทะ
แต่ละบทใน Global Culinary Story จะเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงจุดเด่นที่เกี่ยวข้องกับอาหารของประเทศนั้นๆ เช่น ภูมิประเทศ พืชพรรณในท้องถิ่นที่นำมาปรุงอาหาร วิถีชีวิต อิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีต่อการปรุงอาหารและการรับประทาน ทำให้เรามองเห็นภาพรวมของแต่ละท้องถิ่น เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ การเมือง ความหลากหลาย และจุดร่วมด้านภูมิประเทศ และวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นในอาหารแต่ละจาน ก่อนจบด้วยสูตรอาหารจานเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ
ประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ มาจาก 5 ทวีป ได้แก่ เอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง รวม 40 ประเทศ คือ ไทย เกาหลี มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ อุซเบกิสถาน เวียดนาม ออสเตรีย เบลเยียม เชค เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี อิตาลี ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี คิวบา กัวเตมาลา เม็กซิโก เปรู อเมริกา อียิปต์ เคนยา โมร็อคโก อิสราเอล ซาอุดิอาระเบีย และตุรกี
สำหรับหนังสือ Global Culinary Stories จะวางจำหน่ายที่ร้านเอเชียบุ๊คส์ เร็วๆ นี้ ในราคา 699 บาท โดยผู้เขียนและคณะผู้จัดทำจะนำรายได้จากการจำหน่ายบริจาคให้สภากาชาดไทยต่อไป