ชวนท่องไปในโลกแห่งศิลปะนามธรรม ผ่านผลงานของศิลปินชื่อดังระดับโลก “เมกุรุ ยามากูจิ”
ท่องไปในโลกแห่งศิลปะนามธรรม จากการแสวงหาความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด ในนิทรรศการแรกในประเทศไทยของศิลปินชื่อดังระดับโลก Meguru Yamaguchi (เมกุรุ ยามากูจิ)
HappeningBKK พาทุกคนไปยังอาร์ตสเปซดีไซน์เก๋บนถนนสุรวงศ์ อย่าง “Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ)” โดยทันทีที่ก้าวเข้าไปภายในเราจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอม ท่วงทำนอง และงานศิลป์ที่จัดแสดงไว้อย่างประณีต ราวกับทุกองค์ประกอบสื่อสารกับผู้ชมได้อย่างน่าทึ่ง เพื่อให้เข้าถึงโลกของ Meguru Yamaguchi (เมกุรุ ยามากูจิ) ศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“องค์ประกอบต่างๆ รวมถึงผลงานชิ้นพิเศษได้ถูกครีเอทมาโดยเฉพาะสำหรับนิทรรศการครั้งนี้ เพราะศิลปินต้องการให้นิทรรศการครั้งนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนของเขาได้มากที่สุด” Elsie Lu (เอลซี่ ลู) ผู้ก่อตั้ง Maison JE และคอลเล็กเตอร์ผู้หลงใหลงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ เล่าให้ฟังด้วยแววตาเป็นประกายราวกับเธอกำลังมีความสุขเมื่อเห็นผลงานของศิลปินที่ชื่นชอบมาจัดแสดงอยู่เบื้องหน้า
นอกจากจะมีชื่อเสียงในแวดวงศิลปะ ยามากูจิยังมีชื่อเสียงในวงการสตรีทแฟชั่นผ่านการร่วมออกแบบให้กับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Issey Miyake Men, Uniqlo, Levi’s, Oakley รวมถึงคอลเล็กชั่นสะสมของมูลนิธิ FENDI และอีกหลายแห่ง ทั้งยังออกแบบยูนิฟอร์มให้กับนักปิงปองทีมชาติญี่ปุ่นปี 2024 นอกจากนี้ ยามากูจิยังได้นำผลงานการออกแบบเสื้อผ้า กระเป๋า และแอคเซสเซอรีต่าง ๆ มาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งแรกของเขาในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทุกองค์ประกอบใน Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ) เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นเมกุรุ ยามากูจิ ไว้แทบทุกกระเบียดนิ้ว
In the Elements of Meguru Yamaguchi
ด้วยความหลงใหลในศิลปะและดนตรี นิทรรศการของยามากูจิจึงต้องคำนึงถึงรายละเอียดเล็กต่างๆ ที่จะนำพาผู้เข้าชมงานร่วมออกเดินทางผ่านผลงานของศิลปิน Meguru Yamaguchi Collection Exhibition เป็นนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของศิลปินร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ที่เกิดและเติบโตในครอบครัวนักออกแบบแฟชั่นที่ชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายไปใช้ชีวิตที่เมืองบรูคลิน นิวยอร์ก ประเทศอเมริกา ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน
เจ้าของฉายา “Digital Impressionist” (ดิจิทัลอิมเพรสชันนิสต์) ประสบความสำเร็จในการสร้างผลงานศิลปะนามธรรม (Abstract Art) ที่ซับซ้อนแต่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ผ่านเทคนิคที่เขาคิดค้นขึ้นเองเรียกว่า "Cut & Paste" ด้วยกระบวนการผสมสีลงบนแผ่นพลาสติก ก่อนจะตัด ลอก และวางลงบนพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยกระบวนการจัดวางลวดลายที่แปลกตาและสีสันอันชาญฉลาด ชวนให้นึกถึงความหลากหลายของธรรมชาติที่สอดประสานเข้าด้วยกันอย่างมีจังหวะ ลายเส้นที่ดูราวกับลอยตัวอยู่บนผนังได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ผลงานของเขาเป็นที่ดึงดูดใจนักสะสมและคนรักงานศิลปะทั่วโลก
“หนึ่งในสีโปรดของเขาคือ ‘สีน้ำเงิน’ เป็นตัวแทนของท้องฟ้า มหาสมุทร และโลกของเรา ซึ่งเป็นโทนสีที่เราจะเห็นได้จากผลงานแทบทุกชิ้นของเขา รวมถึงสีขาวและสีดำ” เอลซี่ ลู อธิบายถึงสีหลักที่มักจะปรากฏอยู่ในผลงานทุกชิ้นของเขา
งานศิลป์ของยามากูจิได้แรงบันดาลใจจากการประดิษฐ์ตัวอักษรของญี่ปุ่นโบราณ นำมาผสมผสานกับศิลปะ Abstract ยามากูจิยังชอบที่จะดึงจุดเด่นของแต่ละวัฒนธรรม เมือง และผู้คน จนเกิดเป็นผลงานจากการผสมผสานเทคนิคต่าง ๆ มากมาย เขายังหลงใหลผ่านการใช้สีสันแบบไดนามิกและทับซ้อนกับวัสดุที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว
ยามากูจิยังก้าวข้ามทัศนคติแบบเหมารวม (Stereotypes) กฎเกณฑ์ และขอบเขตต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากการออกแบบผลงานที่ไม่มีผืนผ้าใบหรือเฟรมใด ๆ มาตีกรอบอิสรภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะเขาเชื่อในการแสดงหาความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด เขายังหลงใหลการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้ากับศิลปะ ทั้งยังให้ความสำคัญอย่างมากกับนักสะสมไปจนถึงแกลเลอรี่ต่าง ๆ ที่สนใจอยากนำผลงานของเขาไปจัดแสดง
“ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ กว่าที่เราจะนำผลงานของยามากูจิมาจัดแสดงที่ Maison JE (เมซง เจอี) ทั้งพี่ชายและฉันต่างก็เป็นแฟนตัวยง และสะสมผลงานของเขามานานแล้ว เราใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นนิทรรศการครั้งแรกของเขาอย่างที่เห็น ช่วงเวลานี้จึงเป็นความภูมิใจและความสุขของฉันมาก ๆ ที่คนไทยและนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมผลงานของเขาอย่างใกล้ชิดและดื่มด่ำไปกับงานศิลปะที่หาชมยากของยามากูจิ” เป็นอีกครั้งที่เอลซี่ ลู ยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงผลงานของหนึ่งในศิลปินคนโปรด
นิทรรศการครั้งแรกในประเทศไทยของ Meguru Yamaguchi
ภายในพื้นที่ศิลปะชั้นนำแห่งใหม่ในย่านบางรัก กรุงเทพฯ อย่าง Maison JE (เมซง เจอี) ที่เกิดจากความหลงใหลในงานศิลปะ บริเวณโซนจัดแสดงผลงานชั้น 1 และชั้น 2 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกมุมมอง เพื่อให้ผู้ชมมีเวลาละเลียดผลงานได้อย่างถนัดถนี่ ท่ามกลางผลงานประติมากรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน ท่วงทำนองที่สอดประสาน สะท้อนความเป็นยามากูจิอย่างลุ่มลึก หากเพียงมองให้ลึกลงไปในรายละเอียดเราจะเห็นลวดลายและเนื้อสีที่เปี่ยมด้วยพลังดึงดูดอย่างประหลาด มันเป็นเสน่ห์ที่มีแต่ยามากูจิเท่านั้นที่ทำได้
ผลงานที่นำมาจัดแสดงอยู่ในซีรีส์ “OUT OF BOUNDS” ที่โดดเด่นด้วยฝีแปรงโค้งอันมีเอกลักษณ์และทรงพลัง ด้วยการนำเทคนิค Cut & Paste (การตัดแปะ) รวมถึงแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมสตรีท
“ส่วนตัวฉันชอบงานทุกชิ้นของยามากูจิเลยก็ว่าได้ ครั้งล่าสุดฉันได้ชมผลงานของเขาในไต้หวันแล้วรู้สึกประทับใจมาก ฉันชื่นชอบพลังที่ส่งออกมาจากผลงานของเขา ทุกสีสันและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ดูราวกับจะพุ่งทะยานออกมาจากกำแพงสีขาวตรงนั้น ดังนั้น ทันทีที่เขาตอบตกลงให้จัดแสดงงานศิลป์ที่ Maison JE (เมซง เจอี) ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ เขาเป็นศิลปินที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และทำให้ผลงานศิลปะแนว Floating Art ของเขามีแรงดึงดูดอย่างน่าทึ่ง ฉันอยากให้ทุกคนสัมผัสกับประสบการณ์นั้นด้วยตัวเอง” เอลซี่กล่าวทิ้งท้าย
พบกับนิทรรศการครั้งแรกในประเทศไทย Meguru Yamaguchi Collection Exhibition ได้ที่ Maison JE Bangkok (เมซง เจอี กรุงเทพฯ) ได้ถึงวันที่ 2 มิ.ย. 2567 เวลา 11.00 – 19.00 น. เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน (ปิดวันจันทร์) นอกจากนี้ Maison JE (เมซง เจอี) ยังรวบรวมและนำเสนอผลงานเพื่อสนับสนุนศิลปินจากทั่วโลก เพื่อให้ผู้มาเยือนดื่มด่ำกับศิลปะได้อย่างไร้ขีดจำกัด ติดตามความเคลื่อนไหวและนิทรรศการศิลปะของเราได้ที่ www.maisonje.com หรือ https://www.facebook.com/maisonjebangkok และ https://www.instagram.com/maisonje_bkk/