Tissot อวดโฉมเรือนเวลาดีไซน์ใหม่ในคอลเลกชั่น "PR516"
ยลโฉม “ทิสโซต์” (Tissot) คอลเลกชั่น PR516 เรือนเวลาสไตล์วินเทจที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากยุค 70s ถ่ายทอดสู่นาฬิกาเรือนสปอร์ตสุดเท่
เรือนเวลาช่วยแสดงออกถึงสไตล์อันโดดเด่นของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ล่าสุด “ทิสโซต์” (Tissot) พร้อมอวดโฉม เรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตในคอลเลกชั่นล่าสุดอย่าง “พีอาร์ 516” (PR516) นาฬิกาสุดโดดเด่นด้วยการออกแบบตัวเรือนให้มีความทันสมัยในดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มาพร้อมกับฟังก์ชันโครโนกราฟการจับเวลาในการทำกิจกรรมที่มีความเที่ยงตรงและแม่นยำ พร้อมให้เหล่าหนุ่มสาวยุคใหม่ได้เลือกเรือนเวลาเสริมลุคได้อย่างมั่นใจ
“ทิสโซต์” (Tissot) แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1853 โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 170 ปี ด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์นาฬิกาประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่ความทันสมัยอย่างมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้การยอมรับในแวดวงกีฬา ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีเทคโนโลยีระบบจับเวลาด้านความเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุด
สำหรับคอลเลกชั่น “พีอาร์ 516” (PR516) จาก ทิสโซต์ (Tissot) นั้นถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1965 ซึ่งชื่อรุ่นอย่าง PR ย่อมาจากคำว่า Particularly Robust ที่แปลว่าแข็งแกร่งเป็นพิเศษ นอกจากนี้ PR ยังหมายถึง Precision and Resistance ที่มีความหมายเที่ยงตรงและทนทาน ส่วนเลข 516 นั้นหมายถึงรุ่นที่ 16 ในซีรีส์ที่ 5 (รุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำ) เดิมทีนาฬิการุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับใช้งานกับกิจกรรมเอาท์ดอร์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่ง กลางอากาศ ในน้ำ และทุกหนแห่ง ด้วยคุณสมบัติเด่นที่มีความทนทาน พร้อมการรับประกันคุณภาพของกลไกที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำ ซึ่งเดิมมาจากตระกูลคอลเลกชั่นซีสตาร์ (Seastar) และมีความทนทานเนื่องจากกระจกเสริมความแกร่งที่ฝังอยู่ในตัวเรือนหนา นาฬิกานี้มีต้นแบบจากกลไกหมายเลข 781 เรียกอีกอย่างว่าเป็นกลไกเฉพาะ โดยนาฬิการุ่นนี้โดยทั่วไปเชื่อมเข้ากับนวัตกรรมสายนาฬิกาจีที (GT) หรือสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลแบบมีรูสุดอันโดดเด่น ถือเป็นผู้นำเทรนด์ในยุคนั้นซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Lucien Gurtner และต่อมาในปี 1970 ได้กำเนิดนาฬิกาโครโนกราฟ PR516 ขึ้นมา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในการจับเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยมีเข็มบอกเวลาในระดับวินาที นาที และชั่วโมงบนหน้าปัด พร้อมมาตรวัดความเร็วที่ใช้งานอย่างง่ายบนขอบหน้าปัดช่วยคำนวณความเร็วเทียบกับระยะทาง ซึ่งความสำเร็จของเรือนเวลาเวอร์ชันโครโนกราฟได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและยังคงได้รับการผลิตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 จนถึงปัจจุบัน
และในปี ค.ศ. 2024 คอลเลกชั่น “พีอาร์ 516” (PR516) มาพร้อมกับรุ่นโครโนกราฟแบบจักรกลและรุ่นควอตซ์ 3 รูปแบบ ในดีไซน์สไตล์วินเทจที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีกลิ่นอายของความสปอร์ตมากขึ้น โดยมีตัวเรือนสแตนเลสสตีลที่มีหน้าปัดวงกลมสำหรับบอกเวลา มาพร้อมกับหน้าปัดย่อยสำหรับใช้จับเวลา 3 วง และมาตรวัดความเร็ว (Tachymeter) และมาตรอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Pulsometer ที่ถูกประยุกต์มาใช้อยู่บนบริเวณขอบหน้าปัดนาฬิกา ที่สามารถใช้วัดความเร็วพร้อมกับวัดอัตราการเต้นของหัวใจขณะที่ทำกิจกรรมได้ด้วย โดยการจัดวางหน้าปัดย่อยจับเวลานั้นจะมีความแตกต่างกันระหว่างรุ่นโครโนกราฟแบบจักรกลและรุ่นควอตซ์ เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างทั้งสองรุ่น ด้านขอบหน้าปัด ขีดบอกเวลา และเข็มแบบตรง ถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยมองเห็นในบริเวณที่แสงน้อยหรือยามค่ำคืน เข้าคู่กับสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลที่สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ด้วยตนเอง โดยตัวเรือนที่มีกลไกโครโนกราฟแบบจักรกล จะขับเคลื่อนด้วยกลไกโครโนกราฟวัลฌูซ์ A05 (Valjoux A05) ไขลานด้วยมือ โดยมาในดีไซน์หน้าปัดสีดำลายซันเบิร์สต์ (sunburst) บนตัวตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 41 มิลลิเมตร ครอบทับตัวหน้าปัดด้วยกระจกแซฟไฟร์สไตล์โดมสูงให้ความรู้สึกที่หรูหราเหนือระดับพร้อมเคลือบผิวป้องกันการสะท้อน โดดเด่นด้วยฝาหลังแบบเปลือยเปล่าเผยให้กลไกอันน่าทึ่ง และความสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร
ส่วนตัวเรือนที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกโครโนกราฟแบบควอตซ์ จะเป็นรุ่นที่ถูกปรับด้านกลไกใช้ในรูปแบบควอตซ์ แต่มีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับรุ่นกลไกโครโนกราฟแบบจักรกล ที่ผู้สวมใส่จะสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยราคาที่ย่อมเยา ซึ่งจะมาพร้อมกัน 3 ดีไซน์ แตกต่างกันด้วยโทนสีของหน้าปัด โดยจะมีทั้งสีดำ, สีน้ำเงิน และสีดำตกแต่งด้วยแถบสีทองบริเวณขอบนาฬิกาและสายนาฬิกา ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบเป็นทางการ หรือสวมในวันสบายๆ มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 40 มิลลิเมตร ครอบทับตัวหน้าปัดด้วยกระจกแซฟไฟร์ ด้านฝาหลังถูกแกะสลักลวดลายเป็นรูปมงกุฏช่อมะกอกสัญลักษณ์แห่งชัยชนะจากยุคโรมัน (Laurel Wreath) ซ้อนกับพวงมาลัยรถสปอร์ต พร้อมระบุหมายเลข 516 ตรงกลาง เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงการแข่งรถที่สัมพันธ์กับคอลเลกชั่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ G10.212 Powerdrive พร้อมความสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร
นอกจากนี้ “ทิสโซต์” (Tissot) ยังได้แนะนำไอเดียการเลือกซื้อนาฬิกาเรือนแรก โดยอาจจะเลือกจากการเน้นการ
ใช้งานจริง สามารถเลือกจากรุ่นที่มีดีไซน์ที่ชื่นชอบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง อย่างคนวัยทำงานอาจจะเลือกเรือนที่มีดีไซน์คลาสสิก เลือกขนาดพอดีเข้ากับข้อมือ แมทช์เข้ากับชุดทำงานได้อย่างเหมาะสม ส่วนคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างการใช้ความเร็ว เช่น การแข่งรถ นาฬิกาดีไซน์สปอร์ตที่มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่สามารถจับเวลาพร้อมจับชีพจรวัดอัตราการเต้นของหัวใจก็เป็นเรือนที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก หรือในบางคนชื่นชอบการซื้อนาฬิกาเพื่อเก็บสะสม อาจจะเลือกเป็นคอลเลกชั่นรุ่นพิเศษที่มีดีไซน์โดดเด่น หรือเลือกนาฬิกาไอคอนหรือวินเทจถือเป็นการเลือกซื้อที่คุ้มค่า และบางเรือนยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย นอกจากนี้การเลือกกลไกการทำงานของนาฬิกาก็เป็นส่วนสำคัญ กลไกที่วางใจได้เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ทำงานอยู่ภายในตัวเรือน โดยกลไกจักรกลไม่ว่าจะไขลานด้วยมือหรือไขลานอัตโนมัติจะสามารถทำงานได้อย่างยาวนาน
ร่วมเลือกสรรเรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตที่มาพร้อมกับฟังก์ชันอันโดดเด่นจาก “ทิสโซต์” (Tissot) กับคอลเลกชั่น “พีอาร์ 516” (PR516) ทั้งกลไกโครโนกราฟวัลฌูซ์ A05 (Valjoux A05) และกลไกโครโนกราฟควอตซ์ ได้แล้วที่เคาน์เตอร์ “ทิสโซต์” (Tissot) ทุกสาขาทั่วประเทศไทย หรือช็อปออนไลน์ทาง Official Website:https://www.tissotwatches.com/th-th, Shopee:https://shp.ee/xip2up6, Lazada:https://s.lazada.co.th/s.efbXj,
Central Online: https://www.central.co.th/th/tissot และ Line Official Account: @Tissot_TH