ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตะลุยกรุงเทพ แวะชุมชนเก่า ตลาด วัด ครบรสในเที่ยวเดียว
เที่ยวในประเทศกำลังมานะ ใคร ๆ ก็รู้ ก็เรายังออกไปไหนไม่ได้นี่นา แต่เชื่อเถอะประเทศไทยยังมีมุมให้เที่ยวอีกมากมาย เอามาเริ่มต้นที่กทม. แค่เมืองหลวงนี้ยังเที่ยวไม่หมดทุกซอกทุกมุมกันหรอก สำหรับคนที่มองหาความแปลกใหม่ เรามีรีวิวจากการไปสกู๊ตเตอร์ทัวร์มาฝาก นี่อาจเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งในการทะลุตามตรอก ซอก ซอย แบบที่เราอาจไม่เคยเห็นจากการนั่งรถ หรือซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์รับจ้างก็ได้
ข้อดีแบบสรุปสั้นที่สุดนะหรือ คือการได้เห็นทุกสิ่งอย่าง ใกล้ชิด หยุดชมแต่ละจุดได้ราวกับเดินเท้า แต่ไม่เหนื่อยเท่า เพราะเรามีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าผ่อนแรง
ทัวร์นี้จัดโดย Go E-scooter Tour Bangkok ที่เขาคงออกแบบไว้ให้คนมารู้บ้านเราดีขึ้น แต่มาตอนนี้ไม่มีต่างชาติที่ไหนเข้ามาเที่ยวได้จากสถานการณ์โควิด-19 เราคนไทยก็เที่ยวกันเองละกัน ซึ่งได้อยู่นะเพราะเราลองแล้ว เส้นทางที่ทางบริษัทสรรหาก็น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ ใครจะรู้ว่าจากบางรักเราจะข้ามสะพานพุทธ และไปเที่ยวฝั่งธนฯ ไปวัดอรุณได้ด้วยสองเท้า (บนสกู๊ตเตอร์) เราเอง เริ่มกันเลย ไปพบกันที่ออฟฟิศของ Go E-scooter Tour Bangkok กับกลุ่มประมาณ 7-8 คน เราจะพบกับไกด์ หรือผู้นำทริปของเราเพื่อเข้าใจการทำงานของสกู๊ตเตอร์ซึ่งไม่มีอะไรยาก ไม่เคยขี่สกูตเกอร์ไฟฟ้ามาก่อนไม่ต้องกลัวค่ะ ขี่จักรยานได้หัดแป๊ปเดียวก็เป็น และที่เขามาจัดให้ใช้ก็ไม่ได้เป็นแบบเครื่องแรงมากขนาดที่คนใช้ครั้งแรกจะบิดจนล้มคว่ำได้ง่าย ๆ แต่ยังไงก็ควรเป็นคนที่แข็งแรงพอที่จะใช้ยืนระยะทัวร์ประมาณ 3-4 ชั่วโมงได้นะคะ
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว เราออกเดินทางกันเลยค่ะ
เส้นทางที่เราไปจะครอบคลุมย่านเจริญกรุง บางรัก ตลาดน้อย เยาวราช ปากคลองตลาด จากนั้นเราจะเร่งเครื่องข้ามสะพานพุทธ ไปยังอีกฝั่งของเจ้าพระยา เยี่ยมโบสถ์ซานตาครูซ พิพิธภัณฑ์กุฎีจีน วัดอรุณฯ ทางเลียบแม่น้ำ เส้นทางประมาณนี้ แต่อาจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามความเหมาะสม เช่นลูกทัวร์ไม่ไหว หรือแวะถ่ายภาพบางจุดนานเกินไปจนทำเวลาไม่ทัน แต่ที่อยากแนะนำคือถ้าสามารถหาเพื่อนคอเดียวกันจองเหมารอบจะเหมาะมาก เพราะจะสามารถออกแบบการพักและเวลาแต่ละจุดตามความพอใจไม่ต้องเกรงใจเพื่อนร่วมทริป
เอาแค่เริ่มจุดสตาร์ทผ่านโรงแรมแชงกรีลา แล้ว มาถึงจุดแรกที่วัดสวนพลู ก็น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว กับพระอุโบสถรวมถึงเรือนไม้เตะตา แบบเรือนขนมปังขิง ฝาไม้ตีซ้อนเกล็ดและชายตาประดับด้วยไม้ฉลุ (มารู้ภายหลังว่า หมู่กุฏิที่วัดสวนพลูนี้ยังได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น มรดกสถาปัตยกรรมในประเทศไทยจากสมาคมสถาปนิกสยาม เมื่อปี พ.ศ.2545 อีกด้วย) นี่ถ้าไม่มีสกู๊ตเตอร์ทัวร์ คงไม่ได้แวะแบบนี้ ตามเส้นทางนี้รวมวัฒนธรรมตั้งแต่จีน ไทย มุสลิม ไปถึงโปรตุเกส เลยทีเดียว
ไกด์จะปล่อยให้ถ่ายรูปกันพอควรก่อนออกเดินทางลัดเลาะไป ผ่านโรงเรียนอัสสัมชันบางรัก ลัดเลาะเข้าชุมชนมุสลิมกัน เส้นทางส่วนใหญ่จะผ่านชุมชน และมีบางช่วงจะเป็นเส้นทางริมถนน ซึ่งไกด์จะคอยเตือนเมื่อต้องผ่านที่แคบ แต่ละจุดที่ผ่านและพักจะมีความน่าสนใจต่างกัน แล้วแต่ใครจะสนใจตรงไหน บางจุดอาจมีผู้คนพลุกพล่านอย่างตลาดน้อยในช่วงวันหยุด หรือช่วงสำเพ็งที่ต้องคอยระวังคนเดินซื้อของและร้านรวงที่ตั้งอยู่
นอกจากจะได้ชมศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตชุมชนแล้ว บรรดานักท่องเที่ยวบนสกู๊ตเตอร์ก็ยังได้เห็นมุมที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน อย่างมุมลับที่เยาวราช ที่ไม่มีทางเดินไปเห็น (เห็นว่าเป็นจุดขายจุดหนึ่งของทัร์เลย) หรืออาคารไปรษณีย์แห่งแรกของเมืองไทยใกล้สะพานพุทธฯ ที่ปกติจะเห็นจากมุมมองจากการนั่งเรือก็ได้มาเห็นกันอย่างจะ จะ หรือตอนขึ้นไปอยู่บนสะพานพุทธ หรือสกู๊ตเลียบแม่น้ำ มันเป็นอะไรที่คงจะไม่ได้ทำบ่อยนักในชีวิต
ช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว ใครโชคดีอาจไปวันที่ไม่ร้อนแดดมากนัก แต่จากที่สัมผัสมา การแต่งกายเอาสบายๆ ไว้ก่อน ใครกลัวดำกลัวแดดก็แขนยาวไว้เลย ความร้อนเป็นเรื่องธรรมดาของบ้านเรา ทำใจนิดนึง ช่วงเย็นสุดน่าจะเป็นตอนอยู่ในตรอกและช่วงที่เข้าโบสถ์ไหว้พระ
ทัวร์นี้หลายรสหลายชาติมากจริง ๆ คุ้มเงินคุ้มเวลา ใครมีเวลาว่างครึ่งวันน่าไปลองเที่ยวแบบนี้ดู (ไม่ไหวไม่ต้องฝืน กลับก่อนได้ เรียกรถพับสกู๊ตเตอร์กลับได้ ไม่ต้องเขินกัน 55) ช่วงนี้ไม่ต้องจองแข่งกับนักท่องเที่ยว ใครไปวันธรรมดาได้แนะนำเลย เพราะคนจะน้อยกว่าในจุดที่คนเยอะเช่นชุมชนตลาดน้อย หรือชุมชนกุฎีจีน
ถ้าสนใจน่าจะรีบจองเพราะช่วงนี้มีราคาพิเศษอยู่ เพียง 480 บาทจากราคาเต็ม 1500 จัดทุกวันวันละ สองรอบ รอบเช้า 9.00-12.00 น. และรอบบ่าย 14.00-17.00 น. แต่ละรอบรับลูกค้าได้สองกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 7-8 คนค่ะ วันเสาร์อาทิตย์จะเต็มเร็วต้องรีบและตอนนี้เดือนกรกฎาคมเต็มหมดแล้ว ดูโปรแกรมปกติตามลิ้งค์นี้ได้เลย https://goscootbangkok.com จองและสอบถามเพิ่มเติมที่ LINE Jeabpatty2
Happy Scooting ค่ะ