ค็อกเทลใหม่น่าลองที่ Backstage Cocktail Bar
คราวนี้ไม่ใช่ค็อกเทลคลาสสิกเติมลูกเล่นเหมือนที่ผ่านมา แต่ได้แรงบันดาลใจจากหนังด้วย
เกือบสามปีแล้วที่ Backstage Cocktail Bar สร้างความสุขและความ (เมา) ปลิ้นจากค็อกเทลสุดสร้างสรรค์รสชาติดีในบรรยากาศเก๋ๆ แบบห้องแต่งตัวนักแสดงหลังเวทีในยุโรป จะเปลี่ยนเมนูครั้งใหญ่ทั้งทีก็ต้องไม่ธรรมดา Happening Bangkok ได้รับคำเชิญจาก หนึ่ง-รณภร คณิวิชาภรณ์ หนึ่งในหุ้นส่วนและบาร์เทนเดอร์แถวหน้าของกรุงเทพฯ ให้ไปลองชิมเมนูใหม่ของร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังที่ทีมงานชื่นชอบ แค่เห็นเมนูค็อกเทลก็สนุกแล้ว ... เพราะมันมีหน้าตาคล้ายโปสเตอร์หนังขนาดจิ๋วที่โรงหนัง (สมัยก่อน) ชอบแจก นอกจากชื่อค็อกเทลก็มีหนังต้นกำเนิดแรงบันดาลใจ ส่วนผสมอย่างละเอียดแถมเทสติ้งโน้ตแบบสั้นง่ายได้ใจความ นั่งอ่านเพลินๆ แล้วตัดสินใจได้เลยไม่ต้องซักไซ้บาร์เทนเดอร์ให้เจ็บคอ
แก้วแรกที่เราได้ลองกันคือ Forgetful Painter จากหนังเรื่อง 50 First Dates ได้กลิ่นอายทะเลแบบทรอปิคัลจากเสาวรส สับปะรด และเมเปิ้ล แต่ไม่หวานแหววแบบหน้าตา ออกรสขื่นและขมนิดๆ แต่สดชื่นและสมดุลในปากด้วยวอดก้าที่เอาไปอินฟิวซ์กับชาคาโมไมล์และ absinthe
แก้วต่อมาคือ Gaijin จาก The Lost Samurai ที่มีความตะวันตกผสมตะวันออกเหมือนในหนัง พระเอกของงานคือจิน (จากฝั่งตะวันตก) และสาเก (จากแดนอาทิตย์อุทัย) บวกกันนางเอกของเรื่องคือคอร์เดียลที่ทางร้านทำขึ้นจากชาเก็นไมผสมเบียร์ลาเกอร์ แล้วเพิ่มกลิ่นหอมติดปลายจมูกด้วยข้าวคั่วละเอียดโรยหน้า ดูโหวงเฮ้งแล้วเหมือนจะหนัก แบบซดพรวดเดียวเมาตกเก้าอี้ไปเลยแต่ขอบอกว่ามันนุ่มเนียนละเลียดลิ้น แถมกลิ่นข้าวคั่วและกลิ่นไหม้นิดๆ จากเก็นไมลดทอนรสชาติแรงๆ ของแอลกอฮอล ความเย็นที่มาจากน้ำแข็งก้อนใหญ่ยังทำให้สดชื่น จิบได้เรื่อยๆ
มาดูค็อกเทลที่สร้างจากหนังไทยเพียงเรื่องเดียวในเมนูกันบ้าง นั่นก็คือ San Sab Tragedy จากหนังเรื่องแผลเก่า ความรักสุดซึ้งแต่แอบขมขื่นปรากฏออกมาในค็อกเทลที่ใช้รัมไทยสองชนิดคือแสงโสมและอีสานรัม ผสมกับ Campari เพิ่มความหอมด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นดอกบัวหลวง ที่ได้กลิ่นอ่อนโชยมาตั้งแต่จิบแรก ตามมาด้วยความซาบซ่าของโทนิก เหมือนได้กระโดดน้ำลงคลองยังไงยังงั้น
แก้วต่อไปที่สวยหวานแต่ซ่อนไปด้วยความเปรี้ยวที่ร้ายกาจคือ V.Lynd จาก Casino Royale ที่คุณหนึ่งบอกว่าเอา Vesper Martini มาตีความกลับไปให้เป็นผู้หญิงมากขึ้น ด้วยจิน dry vermouth ชาดอกกุหลาบ น้ำเชื่อมโทนิกและมะนาว เปรี้ยวโดดออกมาแต่หอมกุหลาบชื่นใจ ไม่ต่างอะไรกับสาวบอนด์เจ้าของชื่อที่สวยและแสบในเวลาเดียวกัน
ต่อกันด้วยค็อกเทลแมนๆ แต่รสชาติไม่โหดร้าย Speak Softly, Love จาก The Godfather ที่ออกแนว Old Fashioned แต่แหววกว่าหน่อยด้วยกลิ่นของชาแลปซังซูชองที่ผสมในสก็อตช์วิสกี้ และ Limoncello และ Amaretto ลิเคียวรสอัลมอนด์ให้อารมณ์อิตาเลียนๆ ขม หวานเข้ม มีเค็มปะแล่มติดลิ้นนิดๆ จากน้ำมะกอกดอง
ที่ถูกใจทั้งรสชาติและหน้าตาเห็นจะเป็น Blondie จาก There’s Something About Mary ที่เชื่อว่าพอยกมาเสิร์ฟน่าจะทายชื่อหนังกันได้เลย ค็อกเทลที่หน้าตาเหมือนสมูทตี้นี้ทำจากวอกด้าเก๊กฮวย lemon curd และโยเกิร์ต น้ำลูกแพร์ ดูจากส่วนผสมเหมือนจะหนัก หวาน เลี่ยนแต่มันสดชื่นและลื่นคอผิดคาด เป็นค็อกเทลเนื้อเนียนละเอียด รสชาติสมดุล ที่มีกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลของสายไหมของยัยแมรีพาดบนขอบแก้ว
Movie Menu มีซิกเนเจอร์ค็อกเทลใหม่ทั้งหมด 14 รายการ แต่ที่อยู่นอกเหนือเมนูนี้และอยากแนะนำคือ Pink Me Up ค็อกเทลชวนกระปรี้กระเปร่า (แบบ pick me up) ที่คุณหนึ่งสร้างจาก Bacardi Carta Blanca ไวท์รัมรสนุ่มที่เราไม่ค่อยเห็นเป็นส่วนผสมหลักของเครื่องดื่มทำนองนี้เท่าไหร่นัก ความสดชื่นมาจากมะเขือเทศลูกใหญ่สดที่เอามาบดและกรองเอาแต่น้ำ ผสมกับโหระพา น้ำเชื่อม Orgeat หอมอ่อนๆ มะนาวและน้ำมะกอกดอง ที่เพิ่มรสเค็มติดนิดๆ ปลายลิ้นให้กับค็อกเทลสีชมพู เนื้อเบา หอมโหระพาและรสนุ่ม นึกถึงตอนเดินจตุจักรร้อนๆ แล้วมีคนยื่นผ้าเย็นให้ ... ทำนองนั้นเลย
Backstage Cocktail Bar อยู่ในโรงแรม Play Haus Thonglor ไม่ไกลจากริมถนนทองหล่อช่วงซอย 9-11เปิดทุกวันตั้งแต่หกโมงเย็นถึงตีหนึ่ง โทร (061) 519 5891
Facebook ของร้านคลิกที่นี่
Story by Manta