พาเพื่อนรักไปชิมพาสต้าเส้นสดที่ PHO Kitchen ร้านโฮมเมดน่ารักที่ใส่ใจทุกรายละเอียด
โพธิ์คิทเช่น ร้านเล็กแต่เต็มไปด้วยคุณภาพและความใส่ใจในทุกจาน
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าไม่รู้จักร้านนี้มาก่อน จนเพื่อนสนิทชวนมา เลยตกลงตามใจนาง เพราะกว่าเราจะนัดเจอกันได้ที ก็ปาเข้าไปเกือบปีแล้ว
ถึงจะตกลงกับนางและจองไปแล้ว เราก็ยังอยากส่องร้านที่ว่ามาอยู่ดี เลยแอบพิมพ์หา PHO Kitchen (โพธิ์คิทเช่น) ในอากู๋ดู แต่ข้อมูลน้อยมาก (ตอนที่ไปร้านยังไม่ป๊อบขนาดนี้) มีแต่เพจเฟซบุ๊กของทางร้านกับข้อมูลในเว็บรีวิวอาหารชื่อดัง พอเข้าไปดูก็ประทับใจในความน่ารักและสร้างสรรค์ของเจ้าของร้าน และเมนูก็ดูดีทีเดียว ถึงขั้นสองคนตัดสินใจกันไม่ได้ว่าจะสั่งอะไรเพราะอยากกินไปซะทุกอย่าง โดยเฉพาะเพื่อนที่บอกจะลดความอ้วน แต่สั่งขนมเป็นอย่างแรก 5555
พอถึงวัน สองคนก็นัดกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ออกทางออก 4 แล้วต่อแท็กซี่แป๊บเดียวก็ถึง (จริง ๆ เดินเอาได้ แต่ตอนนั้นร้อนและฝุ่นเยอะมาก เลยไม่เสี่ยงดีกว่า)
โพธิ์คิทเช่น เป็นร้านอาหารโฮมเมดเล็ก ๆ ที่อยู่ในตึกแถวนี้มีแค่ 5 โต๊ะ นั่งได้ 12 คน พอเดินเข้าไปก็มีคนนั่งอยู่แล้วเต็มเกือบทุกโต๊ะ เราสองคนเดินไปบอกชื่อที่จองกับเจ้าของร้านแล้วก็ไปนั่งโต๊ะที่จองไว้ เราสังเกตว่าแต่ละโต๊ะจะตกแต่งไม่เหมือนกัน บ้างก็มีรูปภาพแขวน มีโคมไฟ หรือแจกันดอกไม้ ส่วนครัวของร้านอยู่ตรงกลาง เป็นครัวเปิดที่ให้เราเห็นกระบวนการปรุงอาหารและเครื่องดื่มด้วยความใส่ใจ เหมือนดูโชว์ไปพลาง ๆ ระหว่างที่เรารอแม่ครัวทำออร์เดอร์โต๊ะเรา
ไม่นานพอครัวก็มาทวนออร์เดอร์เครื่องดื่มโต๊ะเรา เพื่อนเราสั่งน้ำมะนาวโฮมเม้ดผสมน้ำผึ้งเดือนห้า ส่วนเราสั่งมัทฉะลาเต้เย็น ร้านนี้ไม่ได้ใส่ไซรัปมาให้ หากชอบทานหวานหน่อยก็ควรบอกพ่อครัว แต่เราว่าร้านนี้ชงมัทฉะได้เข้มข้นและไม่หวานดี ส่วนน้ำมะนาวของร้านนี้เขาดีจริงสมเป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้าน ผสมมาได้รสกำลังพอดี ไม่หวานหรือเปรี้ยวจนเกินไป (พอดีแก้วใหญ่หมด โต๊ะเราได้แก้วเล็กมา 2 แก้ว เราเลยได้แอบกินของเพื่อน)
เรานั่งคุยกันไปสองคนก็หันไปทางครัวเป็นพัก ๆ เพราะกลิ่นอาหารแต่ละจานมันยั่วน้ำลายเหลือเกิน กระเพาะเราทั้งสองนี่ร้องประสานเสียงกันเลยทีเดียว แต่ก็ต้องอดใจรอ เพราะแม่ครัวมีคนเดียว แค่นี้เธอก็ทำอาหารตามออร์เดอร์ในโพสต์อิทที่ข้างฝามือเป็นระวิงแล้ว
และสิ่งที่ทำให้บรรยากาศของร้านดูอบอุ่นและเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ สำหรับเรา คือการทำพาสต้าผักโขมเส้นสดให้เราดูกันตรงนั้นเลย ก่อนจะนำมาทำเป็นเมนูต่าง ๆ เราสองคนมองต่อไปอย่างมีความหวังว่าจะถึงตาออร์เดอร์ของโต๊ะเรา แล้วเราก็ทายถูก ซักพัก แม่ครัวบรรจงขูดชีสลงบนพาสต้าผัดร้อน ๆ ที่ตกแต่งด้วยใบโหระพาและผักชีลาว พาสต้าซัมเมอร์เป็นจานแรกของโต๊ะเรา
ด้วยความหิว เราสองคนไม่รอช้า ใช้ส้อมจ้วงทันที จานนี้รสชาติสดชื่นมาก เปรี้ยวนิด หวานหน่อย จากมะเขือเทศและหัวหอม แล้วยังมีเบคอนกับสมุนไพรต่าง ๆ ทำให้ทั้งหมดลงตัว จานต่อไปมาเสิร์ฟ ทำให้กินได้อย่างไม่ขาดช่วง พาสต้าสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น จานนี้หน้าตาดูดีมากด้วยไข่ออนเซ็นและงาขาวที่โรยอยู่ด้านบน กลิ่นเหมือนเมนูสุกี้ตามร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อนเรารีบจิ้มไข่แล้วคลุกทั้งหมดให้เข้ากัน จานนี้รสชาติออกหวาน ๆ เค็ม ๆ จากหัวหอมและต้นหอมญี่ปุ่น รวมกับสันคอหมูสไลด์และโชยุ ในระหว่างที่เราสองคนกำลังเอ็นจอยกับพาสต้า พ่อครัวก็นำพิซซ่าฟอเรสร้อน ๆ มาวางตรงหน้า เรารู้มาว่าที่นี่ใช้แป้งหมักจากยีสต์ธรรมชาติที่แม่ครัวเลี้ยงเอง เครื่องพิซซ่าคือแน่นมาก เพราะมีทั้งเบคอน พริกหยวก เห็ด หัวหอม และที่ขาดไม่ได้เลยคือซอสมะเขือเทศโฮมเม้ด
มื้อนี้ เราสองคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย คุยไปกินไป อัพเดตชีวิตหลังไม่ได้เจอกันนาน น่าเสียดายที่วันนี้เราสองคนไม่ได้ลองโดนัทจูนใจ ขนมขึ้นชื่อของทางร้านเพราะพ่อครัวบอกว่าหมักแป้งยังไม่ได้ที่ เลยไม่ขอเสิร์ฟ เราสองคนรู้สึกประทับใจเพราะร้านโพธิ์คิทเช่นนี้ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ เราสองคนชอบทั้งการบริการ รสชาติอาหาร ไหนจะความเป็นกันเองของพ่อครัวแม่ครัว และมุมสวย ๆ ที่ให้ถ่ายกันรัว ๆ ของร้านนี้ ว่าแล้ว พอถึงเวลาบ่ายสาม ก็ได้เวลาพักของพ่อครัวแม่ครัวเพื่อเก็บกวาดร้านและเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำมื้อต่อไป เราสองคนเลยถือโอกาสกลับ
โพธิ์คิทเช่น นี้เป็นร้านอาหารโฮมเมดน่ารัก ๆ ที่เราสองคนสัญญากันว่าจะต้องมาอุดหนุนอีกแน่นอน
PHO Kitchen ซอยลาดพร้าว 29 เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-15.00 น. และ 18.00-21.00 น. สามารถจองได้ทาง Inbox ของเพจ