HAPPENING BKK
NLINE MAGAZINE
×
ล้วงลึกวงการแฟชั่นผ่านหนังสารคดี
by ขเจน
20 ธ.ค. 2560, 10:29
  1,965 views

ออกตัวแรงตั้งแต่บรรทัดแรกว่า นอกจากบ้าแฟชั่นแล้ว ข้าพเจ้า/ผู้เขียนก็บ้าหนังด้วย เพราะงั้น วันนี้เลยขออนุญาตหยิบสารคดีแฟชั่นที่เคยดูแล้วและชอบมาก มาแนะนำให้ไปหาดูกันสนุก ๆ ทั้งนี้ก็อย่างที่บอก นี่คือหนังที่เราดูแล้วและชอบ แต่เราคิดว่ายังมีสารคดีแฟชั่นดี ๆ อีกเยอะมาก ๆ ที่เราอาจจะยังไม่เคยดู หรือยังไม่มีให้ดูในตอนนี้ ยังไงถ้าเจอเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก จะหยิบมาแนะนำกันอีกเรื่อย ๆ ก็แล้วกันเนอะ

 

อ้อ อีกเรื่องที่อยากออกตัวคือ การดูหนังสารคดีไม่เคยน่าเบื่อสำหรับเราเลย ออกจะเป็นการเปิดโลกเสียด้วยซ้ำ เพราะ subject ที่หลากหลายของสารคดีนั้นเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เยอะมาก ยิ่งคนบ้าแฟชั่นอย่างเรา การดูสารคดีแฟชั่นทั้งหลายเหล่านี้นี่ยิ่งเป็นเรื่องที่สนุกมาก ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย จริง ๆ ถ้าใครสนใจอยากดูหนังสารคดีดี ๆ นะ ทุกวันนี้ Documentary Club ของพี่ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ก็ได้สร้างวัฒนธรรมการดูหนังสารคดีให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังในบ้านเรา และทำให้มีหนังสารคดีดี ๆ เข้าโรงมาให้ดูกันต่อเนื่องตลอดทุกเดือน ลองเข้าไปส่องที่เฟซบุ๊คเพจของ Documentary Club กันได้

 

อะ เข้าเรื่อง!

 

 

The September Issue (2009, R.J. Cutler)

 

การเลือก The September Issue อาจจะเป็นช้อยส์ที่ง่ายไปหน่อย แต่ต้องยอมรับว่าหนังพาเราไปเกาะติดเบื้องหลังการทำงานของกองบก. American Vogue ได้อย่างเจาะลึก หนังอาจจะพูดถึงเบื้องหลังการผลิตโว้คฉบับสำคัญคือฉบับเดือนกันยายนเป็นหลัก แต่ข้างในหนังจริง ๆ เราจะได้ดูทั้งการทำงานของป้า Anna Wintour บรรณาธิการบริหาร ที่ไม่ใช่แค่ไปเห็นว่าเธอบริหารนิตยสารหัวใหญ่เล่มนี้อย่างไรให้ยังเป็นที่นิยม แต่ได้ไปเห็นการทำงานในด้านอื่น ๆ ของเธอด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เราเข้าใจว่า เพราะอะไรเธอจึงเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นตัวจริง นอกจากป้าแอนนา อีกคนที่หนังไปตามถ่ายได้อย่างเจาะลึกทั้งที่ตอนแรกเธอไม่ค่อยชอบใจที่ถูกตามถ่ายเท่าไหร่คือป้า Grace Coddington ซึ่งปัจจุบันลดบทบาทของตัวเองที่โว้คลงไปแล้ว แต่เธอคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสไตลิสต์มือหนึ่งที่คิด fashion content ได้สร้างสรรค์และสวยสดงดงามเสมอ อ้อ ที่เก๋กว่านั้นคือ ใครอยากรู้จัก Edward Enninful บก.บห.คนใหม่ของ British Vogue หนังเรื่องนี้มีพาไปเจอเอ็ดเวิร์ดตอนยังเป็นผู้น้อยในกองโว้คอเมริกาอยู่เลยด้วย

 

 

 

Bill Cunningham shooting on the street in New York City from documentary "Bill Cunningham New York"

 

Bill Cunningham New York (2011, Richard Press)

 

เสียน้ำตาไปเยอะมาก ๆ กับสารคดีเรื่องนี้ที่ไปตามถ่ายชีวิตของลุง Bill Cunningham ผู้ล่วงลับ ลุงเป็นช่างภาพแฟชั่นแนว streetstyle ระดับตำนานของหนังสือพิมพ์ New York Times ที่อาจจะพูดได้ว่าเป็นคนแรก ๆ ในโลกแฟชั่นยุคปัจจุบันที่ออกไปตามถ่ายภาพผู้คนบนท้องถนน ความโดดเด่นในงานของบิลคือการที่เขามี passion อันยิ่งใหญ่ให้กับเสื้อผ้าที่ผู้คนสวมใส่ หลายครั้งลุงจึงไปเก็บภาพเซเลบริตี้บางคนมาได้โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนในภาพนั้นโด่งดัง เพราะสิ่งที่ดึงดูดให้ลุงถ่ายภาพคือเสื้อผ้าที่เขาหรือเธอสวมใส่อยู่ ในขณะที่ชีวิตลุงพัวพันกับความหรูหราในโลกแฟชั่น แต่ปรากฏว่าตัวลุงเองเป็นคนที่สมถะอย่างถึงที่สุด และให้ความสำคัญกับงานและการถ่ายภาพมากกว่าอะไรทั้งหมด ขอแค่ได้ขี่จักรยานออกไปรอดูผู้คนบนท้องถนนในนิวยอร์ก เมืองที่ลุงอยู่มาทั้งชีวิต แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เหมือนที่ลุงพูดไว้ตอนหนึ่งในหนังว่า “It is true today as it ever was, he who seeks beauty will find it.”

 

 

 

 

Scatter My Ashes at Bergdorf’s (2013, Matthew Miele)

 

ขุดเจอสารคดีเรื่องนี้บนเครื่องบินตอนบินไปเที่ยวที่ไหนซักแห่งเมื่อสองสามปีก่อนโดยที่ไม่ได้รู้จักห้าง Bergdorf Goodman ดีเท่าไหร่นักในตอนนั้น แต่ปรากฏว่าสนุกมากกับทุกรายละเอียดที่หนังนำเสนอเกี่ยวกับห้างเก่าแก่กลางกรุงนิวยอร์กแห่งนี้ที่รวมสารพัดแบรนด์แฟชั่นในโลกไว้ด้วยกัน หนังพาเราไปเจาะลึกในทุก ๆ ส่วนของความเป็น Bergdorf Goodman ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา สัมภาษณ์ลูกค้าขาประจำ แวะไปคุยกับป้าเบตตี้ personal shopper ประจำห้างที่ทุกคนต้องมาเจอ คุยกับ Linda Fargo ซึ่งนอกจากเป็น buyer แล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นหน้าตาของห้างนี้ไปแล้วด้วย เรื่อยไปจนถึงการคุยกับพี่ David Hoey ผอ.ฝ่ายตกแต่งหน้าร้าน (window display) ที่ทำงานละเอียดและครีเอทีฟสุด ๆ ฯลฯ ทั้งหมดนี้สรุปออกมาด้วยชื่อหนัง “Scatter My Ashes at Bergdorf’s” ที่ไปหยิบยืมเอาคำของลูกค้าประจำคนหนึ่งที่เคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้าฉันตายเมื่อไหร่ ขอให้เอาเถ้ากระดูกไปโปรยให้ที่เบิร์กดอฟก็แล้วกัน”

 

 

Lagerfeld Confidential (2007, Rodolphe Marconi)

 

มีหลายคนสงสัยว่า Karl Lagerfeld ดีไซเนอร์พลังแรงสูงของห้องเสื้อ Chanel และ Fendi นี่เป็นแวมไพร์หรือเปล่า เพราะคนรุ่นเดียวกันกับคาร์ลก็ลาโลกกันไปเกือบหมดแล้ว (พูดจริง ไม่ได้พูดเล่น 55) แต่คาร์ลยังอยู่ยั้งยืนยง และยังทำงานออกมาอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด เราไม่ได้เป็นแฟนประจำงานของคาร์ลซะทีเดียว แต่ก็อดกังวลแทนไม่ได้เหมือนกันว่า ถ้าวันหนึ่งคาร์ลไม่อยู่ โลกแฟชั่นจะเป็นอย่างไรต่อไป ..นอกเรื่องไปเยอะ เอาเป็นว่า ไม่ว่าคาร์ลจะอยู่หรือไป สารคดีเรื่อง Lagerfeld Confidential ก็บันทึกชีวิตและการทำงานของคาร์ลไว้เกือบครบเลย เพราะไปตามถ่ายกันถึงในอพาร์ทเม้นต์ส่วนตัวและในทุกที่ที่คาร์ลไป (โดยที่ใช้เวลาตามถ่ายกันอยู่เห็นว่าสามปีเต็ม แต่คาร์ลถอดแว่นดำให้เห็นลูกตาแค่ฉากเดียว) ส่วนที่ชอบมากในหนังคือการได้รู้จักตัวตนของคาร์ลขึ้นอีกนิดและพบว่า เขาเป็นคนน่ารักและมีทัศนคติในการมองโลกและมองการทำงานของตัวเองที่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างมาก ๆ คือเราอาจจะมโนไปเองก่อนว่า ดีไซเนอร์เบอร์ใหญ่อย่างคาร์ลไม่น่าจะเป็นคนที่เข้าถึงง่ายเท่าไหร่ แต่สารคดีเรื่องนี้ถ่ายให้เห็นว่า เขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง และถึงจะแก่แล้วแต่ไฟยังไม่เคยมอด ยังมีพลังที่จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ เสมอ แถมไม่ยึดติดกับอะไรเลย ชอบจัง

 

แนะนำกันพอหอมปากหอมคอซักสี่เรื่องก่อนเนอะสำหรับวันนี้ ใครสนใจเรื่องไหน ลองไปหาดูกันจ้า

 

 

ABOUT THE AUTHOR
ขเจน

ขเจน

ทำงานเขียนในบริษัทพีอาร์ แต่ว่าบ้าหนังและชอบแฟชั่นจนพาตัวเองออกเดินทางแรดอะราวด์ไปทั่วโลกเพื่อดูหนังและชาบูดีไซเนอร์ที่ชอบ แต่ทุกคนคิดว่าหาเรื่องไปช้อปปิ้งมากกว่า #เอิ่ม

ALL POSTS